25... บันทึก(ไม่)ลับ

คลิกที่นี่...นโยบาย"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"


"ด้วยความเคารพ แม้ว มันเคยเลวในสายตาของผม"
By: สายลมรัก(1)

"ไอ้ห่ะ กรูว่าแมร่งเป็นโรคไฮเปอร์" ผมสบถ...กับน้อง+เพื่อน ร่วมงาน ในแผนก

บนโต๊ะอาหารกลางวัน ณ สโมสรแห่งหนึ่ง กลางใจเมืองหลวง

ตกกะใจปนระคนทุกข์ เมื่อ แม้วสั่งซ้ายหันขวาหัน ให้เหล่าข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ขับเคลื่อนด้วยระบบ เอกชน

"แมร่งสั่งนับหน่วยผลิตด้วยเว้ย...แบบว่าถ้าคนเยอะแต่เนื้องานน้อยกว่าหละเมิง โดนตัดงบแถมโดนลดคนด้วยนะเมิง..." เพื่อนซี้พูดพลางพร้อมกระดก...ไฮเนเกนท์

"แถมวัดผลงานข้ามกรมฯ ด้วยหละ" มันย้ำๆ

"กรูจะฟ้องศาลปกครอง" ผมคำรามในใจ ในฐานะที่ร้อนวิชากฎหมายมหาชน ที่เพิ่งจะได้รับอบรมเสร็จหมาดๆ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

"แมร่งจะวัดกันยังงัยว๊ะในแต่ละหน่วย ลองเอาผลงานของกรมป่าไม้ ไปเทียบกับกรมประชาสงเคราะห์สิ วัตถุประสงค์มันคนละอย่าง"

"นี่มันเล่นอัดกันแบบลูกจ้างโรงงานมือถือ...มันไม่แฟร์ มันต้องดูจอบดิสคริปชั่นของแต่ละหน่วยเว้ย" (กระแดะใช้ภาษาปะกิตเพราะเริ่มเมานิดๆ)

*****

นั่นเป็นครั้งแรก ที่ผมรู้สึกกับอัศวินควายดำ ของใครหว่า ผมจำไม่ได้ที่ให้ฉายาไว้ ว่าเขาคนนี้นี่แหละที่จะกอบกู้...เศรษฐกิจประเทศไทย

ในขณะนั้นทักษิณเนื้อหอม ในสังคม แต่ด้วยศรศิลป์อาจไม่กินกันแน่ๆ ผมจึงไม่ค่อยชอบเศรษฐี ขี้ใจร้อน เอาแต่ใจ...แถมติดดูถูกนิดๆ ด้วยว่า

คอยดูเหอะ "สัญญาประชาคม" ไอ้โน่น ไอ้นี่ไอ้นั่น ไม่มีทางทำได้ นักการเมืองมีแต่โม้...

*****

แต่ วันหนึ่งผมต้องไปประชุมร่วม...เผอิญแม้วมันเป็นประธาน...

เอาคำพูดที่จำได้มั่งไม่ได้มั่งมาประติดประต่อให้ฟัง

"ในตอนนี้...ประเทศเราไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ เรากำลังจนเพราะเป็นหนี้ IMF และการเป็นหนี้ทำให้เราต้องทำตามเงื่อนไขที่เจ้าหนี้กำหนดให้เราทำอะไรหลายอย่างที่ขมขื่น"

"ผมต้องการให้ทุกคน(ในที่ประชุม)คิดนอกกรอบ หาทางเอารายได้เข้าประเทศให้ได้มากที่สุด ผมอยากบอกว่า พวกเราทุกคนต้องทำงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าราชการ ต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมหลายเท่า หน่วยไหน ยังอืด ล่าช้า ผมจะลงไปรีดไขมันด้วยตัวเอง(ขู่) แต่ผมสัญญาว่าหากเราทำงานหนักแล้วรายได้เข้าประเทศ...ผมจะหาเงินมาเพิ่มให้พวกเรา แม้จะได้ครั้งละไม่มาก แต่พยายามหามาเติมให้ได้มากที่สุด"

"จงจำไว้ว่าขณะนี้ประเทศของเรา อยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ"

*****

1 อาทิตย์ให้หลัง ผมเห็นหนังสือตั้งคณะำงาน ให้หาเงินจากนักท่องเที่ยว ที่ผ่านสนามบินดอนเืมือง (Transit) ไอ้ 3 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง 9 ชั่วโมง 12 ชั่วโมง...ไปหาทางให้เขาแวะมาใช้เงินให้ได้ (ซึ่งไม่เึคยมีรัฐบาลไหนคิด เพราะส่วนมากจะสิ้นคิด ในวิธีหาเงินเข้าประเทศ)

เอากะมันดิ สั่งมาด้วยว่าให้ใครทำหน้าที่อะไร ผมงานเข้า ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ศุลกากร การท่าอากาศยาน การท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม สมาคมไกด์ ฯลฯ

ประชุมกันหัวแทบแตก

ในที่สุดก็ฝ่าด่านทำตามที่แม้วสั่งได้

แม้บริษัทท่องเที่ยว แมร่งจะพาผู้โดยสารไปซื้อเพชรที่ร้านมัน แต่ก็ถือว่าส่วนน้อย ส่วนมากได้จับจ่ายใช้สอยระยะสั้นๆ เพื่อหาเงินเข้าประเทศ

*****

จากนั้นแม้วได้กระชับพื้นที่ ระบบที่เช้าชามเย็นชาม เป็นนิวลุค...ทุกหน่วยงาน จากสามโมงเย็นนั่งเด็ดผักบุ้ง เตรียมตัวกลับบ้าน สี่โมงจะครึ่งแล้วยังหัวฟูกันอยู่เลย (ฮา)

*****

มุมมองผมเริ่มเปลี่ยน เริ่มอืมม เริ่มเออ เริ่มดีหวะ เออใช้ได้ กับการปฏิบัติการไฮเปอร์ของแม้ว...แถมสัญญาประชาคม ที่บอกตอนเลือกตั้งมันทำทุกโครงการ

"เออ...นี่แหละ นายกฯที่คนไทยต้องการ"

นโยบายเราเริ่มปรับเปลี่ยนจากตามก้นสิงคโปร์ เป็นหายใจรดต้นคอ ตามมาติดๆ

พวกคุณคงไม่อยากเชื่อว่า...รัฐมนตรี ป้ายแดงเคยเรียกพวกผมไปพบในห้องแล้วบอกว่า

"พวกคุณไปเอาผลงานเด่นๆ ของคุณมา 1 ชิ้น เพราะเมื่อครบสามเดือน รัฐมนตรีทุกคนต้องแสดงผลงาน ไม่เช่นนั้นอาจโดนปลด ท่านเคยบอกกับรัฐมนตรีทุกคนไว้ว่า อย่าอยากเป็นเพราะเป็นเกียรติประวัติ ถ้าอยากเป็นต้องทำงานเป็นคิดเป็น ถ้าทำงานไม่เป็นก็ไม่ควรที่จะเสนอตัวเอง"

"ผมเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ๆ ยังไม่ทราบว่างานมีอะไรบ้างขอเวลาผมหน่อย แล้วผมจะคิดโครงการเอง" (ฮา)

*****

นี่แหละไอ้แม้ว ที่พวกเราเกลียดนักเกลียดหนาที่เขาว่าเลว

ผมโชคดีที่มีประสบการณ์ได้ทำงานในยุคที่คนคนนี้เป็นนายกรัฐมนตรี

เปล่า...ผมไม่ได้ว่าเขาดีเลิศประเสริฐศรี เหนือมนุษย์ ถ้าจำไม่ผิดแม้วเคยขอโทษประชาชนออกทีวี ฐานะพูดเร็วกว่าคิดไปสองครั้ง

แต่โดยรวม เขาทำงานได้ดีี่ที่สุดที่เราเคยมีมา

*****

เหลียวมองพรรคที่เคยชอบ ชวน หลีกภัย คนนี้ผมเคยเชียร์ (ฮา)

ไอ้ห่ะ นั่งเซ็นงานเรื่องเพื่อทราบถึงสองทุ่ม ไม่รู้จะเซ็นทำห่ะอะไร มันไม่ใช่หน้าที่นายกฯ นั่งเป็นปลัดประเทศ จนสื่อเรียกว่า

บริหารแบบนี้ ไม่ต้องมีนายกฯก็ได้ หรือที่ดังในขณะนั้น เขาเรียกว่า บริหารแบบไม่บริหาร

พอมาเจอมาร์ค ม.7 ยิ่งหนักกว่าชวน

เล่นการเมืองโดยอาศัยระบบรัฐประหารยังไม่พอ

นโยบายแรกของเราคือกู้ มากินมาใช้กันก่อน เดี๋ยวพอประเทศอื่นเขาดีขึ้นเราก็จะดีเอง (ฮา)

นักข่าวถามว่า กู้แบบนี้มันจะได้ผลหรือ

มาร์คตอบว่า "ไม่ต้องห่วงประเทศอื่นเขาก็กู้ ถ้าผิดก็ผิดเหมือนกันหมด"

โอ้โห...แมร่งตอบได้สุดยอด....................

*****

ประเทศเรามีกรรม มีเวร มีอะไรก็ไม่รู้คอยฉุดรั้งไว้...

อยู่กันไปแบบนี้แหละ สามโมงเย็นแต่งหน้ารอผัวมารับกันแล้ว...

อยู่กันแบบเจ้าคนนายคน อยู่กันไปแบบนี้แหละ

ประเทศไทยโชคดี ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ และมีนายกชื่ออภิสิทธิ์...

เราโชคดีจริงๆ ครับพี่น้อง


หึ หึ...เข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์ม...ไข่...

24... คนใต้ไม่เอาทักษิณ

คลิกที่นี่...วิภูแถลง และ ส.ส.พร้อม


คนใต้ไม่เอาทักษิณ
ปล. ผมcopyจากกระทู้pantipครับ ผมไม่ได้เขียนเอง

ผมเป็นคนใต้โดยกำเนิดครับ

หัวใจเป็นประชาธิปัตย์ เต็มร้อย

พรรคไทยรักไทยถือกำเนิดขึ้นมา ผมก็ไม่เลือกครับ

แต่ มาวันหนึ่ง เมื่อไทยรักไทย และทักษิณ ได้เข้ามาบริหารประเทศ เข้ามาเปลี่ยนประเทศไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน จนถึงการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ของพรรคไทยรักไทย ผมขอสารภาพว่า ผมแอบแหกกฎตระกูล และแอบแหกกฎวัฒนธรรมของคนใต้ นั่นคือ ผมแอบกากบาท ปาร์ตี้ลิสต์ให้กับพรรคไทยรักไทยครับ แต่เลือกคนนั่นยังเป็นพรรคประชาธิปัตย์อยู่

ผลการเลือกตั้งออกมา ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคไทยรักไทยได้คะแนนเยอะ เป็นพิเศษ ในเขตนั้น อยู่ดีๆ แม่ถามผมว่า เอ้ ไทยรักไทย ได้คะแนนพรรคเยอะเหมือนกันนะ ลูกเลือกพรรคอะไรเหรอ ผมเลยตอบว่า ก็ต้องเลือก ประชาธิปัตย์ซิแม่ รู้ๆกันอยู่ (นั่นผมโกหก)

หลังจากนั้นผมรู้สึกผิดที่ต้องโกหกแม่ และโกหกใครต่อใคร ที่มาถามผมว่าผมเลือกพรรคอะไร จนทุกวันนี้แม่ยังไม่รู้หรอกว่าผมโกหก

มาถึงตรงนี้หากย้อนกลับไป...

ทำไม ผมต้องมีความสึกผิดด้วยที่ผมได้กากบาทให้พรรคไทยรักไทยไป

ทำไม ผมถึงไม่กล้าบอกใครต่อใครว่า ผมแอบเลือกพรรคไทยรักไทย

คำตอบคือ เพราะผมถูกปลูกฝังมาด้วยประชาธิปัตย์ แวดล้อมไปด้วยคนของประชาธิปัตย์ ตระกูลเป็นประชาธิปัตย์ ความเป็นประชาธิปัตย์นั้นได้หยั่งรากฝังลึกไปยังก้นบึ้งของจิตใจของคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนใต้ คือ คนใต้ไม่ชอบทักษิณ ไม่ชอบคนอีสาน ไม่ชอบพรรคไทยรักไทย หรือ พรรคอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์

ถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับคนใต้ครับ ทำไมชาวใต้ปล่อยให้ความคิดแบบนี้มาครอบงำได้อย่างไร

หันกลับมาดูสถานะของผมในวันนี้ครับ ผมไม่บอกหรอกครับว่าผมเป็นเสื้อสีอะไร แต่ที่แน่ๆ ผมเป็นคนใต้ที่เกลียดประชาธิปัตย์ยิ่งกว่าขี้...

ถึงชาวใต้ครับ

หนึ่งเสียงของผมที่ผมเคยเลือกประชาธิปัตย์นั้น หลังเลือกตั้งไปแล้ว ผมไม่เคยว่ารู้สึกภูมิใจ หรือ รู้สึกเลยครับว่าเสียงของผมมีค่าอะไร เหมือนเลือกไป เพราะหน้าที่ต้องเลือก

แต่กลับกัน ผมรู้สึกภูมิใจมาก กับหนึ่งเสียงของผมที่ได้แอบเลือกพรรคไทยรักไทยไป เพราะผมรู้สึกว่า เสียง 1 เสียงนี้ เป็น 1 เสียงที่ทำให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้าไปยืนอยู่แถวหน้าๆ ของโลกโดยที่ไม่อายใคร เหมือน 1 เสียงของเราสามารถสร้างประเทศได้ เลยทำให้รู้สึกถึงความรักชาติได้เป็นไหนๆ

ได้เวลาพิสูจน์แล้วครับชาวใต้ ว่าเราจะหลุดกรอบความคิด หลุดจากวัฒนธรรมเดิมๆ ได้มั้ย ถึงวันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ใครทำได้จริง หาก 2 ปีที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ทำให้ไทยถอยหลัง อยู่ที่เดิม หรือก้าวไปข้างหน้า เราก็รู้กันดีอยู่ครับ

ชาวใต้ลองแหกกฎดูสักครั้ง สิครับ แล้วคุณจะรู้ว่า ความภูมิใจที่ผมเคยรู้สึกนั้นมันเป็นอย่างไร และเราจะได้รู้ว่าการรักชาติของแท้นั่นที่จริงแล้ว คือการออกเสียง 1 เสียง สำหรับพรรคที่ทำจริงเท่านั้นครับ...

คลิกที่นี่...นโยบาย"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"


ดิฉันเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด และบ้านดิฉันก็เลือกเพื่อไทยและทักษิณค่ะ และเพื่อไทยก็เป็น สส. แถวบ้านด้วยค่ะ

บ้านดิฉันเลือกคนเลือกพรรคที่ผลงาน ดูการกระทำ ไม่ได้เลือกพรรคที่ดีแต่พูด บริหารไม่ได้เรื่องหรอกค่ะ

และดิฉันก็เชื่อว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ ตาสว่างกันแล้ว และก็คิดแบบดิฉัน ไม่โดนหลอกง่ายๆ อย่างคนภาคใต้หรอก...กับประโยคว่า พรรค ปชป.เป็นพรรคของคนใต้

หึ หึ...เข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์ม...ไข่...

23... เลือกเพื่อไทยได้ทักษิณ... เลือกปชป.ได้หนี้สิน

ดีใจจัง ทำไมมีแต่คนห่วงพรรคเพื่อไทย
By: นางฟ้านะยะ

คลิกที่นี่...นโยบาย"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"

ดูจากกระทู้ที่ผ่านมา ทำมั๊ยทำไมมีแต่คนห่วงพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะคนเสื้อแดงหรือแมลงสาป ต่างก็เป็นห่วงพรรคเพื่อไทยยิ่งนัก

สำหรับคนเสื้อแดงนั้น ยังพอจะมีเหตุผลตรงที่ว่าอยากให้พรรคที่ตัวเองสนับสนุนนั้น ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ

แต่สำหรับแมลงสาปนี่สิ มันน่าแปลกจริงๆ

เพราะแทนที่จะเอาเวลาไปสำรวจพรรคที่ตัวเองเชียร์ว่า

มีผลงานอะไร?

ผิดพลาดตรงไหน?

ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง?

ทำไมประชาชนถึงบอกว่ามาร์ค"ดีแต่พูด"?

กลับไม่ทำ

ทุกวันนี้เอาแต่มากังวลว่า พรรคเพื่อไทยก้าวข้ามทักษิณหรือยัง? หัวหน้าพรรคคือใคร? วานนี้ก็ยังมาห่วงเรื่องคนในพรรคที่ไม่มีผลงานคนหนึ่งลาออกไปอีก?

ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่อุตส่าห์สละเวลามาช่วยสอดส่อง เป็นหูเป็นตาแทนคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย


ความจริงแล้ว พรรคเพื่อไทยมาจากไหน อย่างไร คงไม่ต้องสาธยายให้เสียเวลาอีกต่อไป...

แต่ท้ายที่สุดแล้ว รากเหง้าของพรรคนี้มาจากคนที่ชื่อทักษิณ

ซึ่งทักษิณคนนี้นี่แหละ ที่ออกมาทำงานทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นว่า ตัวเองประสบผลสำเร็จในชีวิตได้ด้วยลำแข้งและมันสมองของตัวเอง ฉะนั้นแล้ว ด้วยสมองและประสบการณ์ที่มีอยู่ในชีวิตเขานั้น จะสามารถช่วยเหลือประเทศไทยที่เพรียบพร้อมด้วยศักยภาพในหลายๆด้านเดินไปข้างหน้าอย่างไร? และไปในแนวทางใดให้ดีกว่านี้

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยเรานั้นมีแต่นักการเมืองที่ไม่ประสีประสา อาศัยบารมี อาศัยอิทธิพล เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของกลุ่มก้อนตัวเองทั้งสิ้น บ้านเมืองเราจึงถูกประเทศอื่นเขาแซงไปตลอดเวลา ไม่ว่าจะญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี มาเลเซีย

แต่ตลอดเวลาที่เห็นทักษิณทำงานในยุคที่เข้ามาบริหารประเทศในครั้งแรก ก็ปรากฏให้เห็นได้ชัดแล้ว ทักษิณนั้นไม่ได้"ดีแต่พูด" แต่เป็นคนที่"ทำมากกว่าที่พูด"เสียอีก มันจึงทำให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

และท้ายสุด จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งที่สองในนามพรรคไทยรักไทย จึงสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทยด้วยการนำพา ส.ส. เข้าสภาแบบแผ่นดินถล่ม เกินกว่ากึ่งหนึ่งได้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์การเมืองประเทศไทย...นี่เป็นเพราะผลงานล้วนๆ

และเพียงแค่ชื่อทักษิณเท่านั้น พรรคที่เพิ่งเกิดใหม่อย่างพรรค พปช. ก็ยังสามารถเอาชนะพรรคที่อยู่มานานกว่า70ปีอย่างพรรคที่มีหัวหน้าหล่อเหลา พูดจาเก่งกาจได้อีกด้วย

นี่เป็นเพราะผลงานล้วนๆ เช่นกัน

อดีตนายกฯที่มีผลงานมากมาย ชื่อเสียงติดปากคนทั้งประเทศ ทุกคนรู้จักเพราะโครงการต่างๆที่ทำเพื่อประชาชนอย่างทักษิณนั้น จะให้ก้าวข้ามไปได้ง่ายๆได้อย่างไรกัน

ความกตัญญู รู้คุณคนนั้น คนไทยเขาสอนลูกหลานกันมานานนมแล้วว่า ต้องรู้จัก"กตเวที"ด้วย

ความจริง คนที่น่าห่วงที่สุดคือพรรคแมลงสาปและนายมาร์กมากกว่า เพราะ 2 ปีกว่าที่ผ่านมานั้น มันชี้ให้เห็นแล้วว่า "ความหล่อไม่ได้หมายถึงสมองดี คนพูดเก่ง ไม่ได้แปลว่าจะทำได้อย่างที่พูด"

เพราะเหตุนี้ มาร์คจึงไม่มีผลงานอะไรให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน จนสามารถหยิบยกมาคุยโอ้อวดหาเสียงได้เลย

บอกว่าเรียนฟรี ก็ไม่ฟรีจริง

บอกว่าจะช่วย น้ำแห้งไปเกือบครึ่งปีแล้ว เงินช่วยเหลือก็ยังไม่ได้รับ

บอกว่าจะลด กลับบวกภาษีเพิ่มเข้าไปอีก จนน้ำมันแพงโคตรๆ

บอกว่าจะจัดการกับคนทุจริต ผ่านมา2ปีกว่า ข้อหาทุจริตมากมาย แต่ไม่เคยเอาคนผิดมาลงโทษได้แม้แต่คนเดียว

ที่สำคัญ กล่าวหาว่าทักษิณโกงกิน พอตัวเองมีอำนาจเต็มที่ ก็ยังไม่เคยไปเร่งรัดคดีทุจริต หรือหาหลักฐานมาโชว์ประชาชนได้เลย นอกจากข้อกล่าวหาลอยไปลอยมาเท่านั้น

เป็นเสียแบบนี้ คิดหรือว่า จะมีโอกาสได้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้งถ้าพรรคแมลงสาปยังไม่คิดจะผ่าตัดและปรับปรุงพรรคตัวเอง เวลาหาเสียงก่อนเลือกตั้ง จะเอานโยบายอะไรไปหลอกประชาชนกันได้อีกหรือ ในเมื่อยามที่เป็นรัฐบาลยังไม่เคยทำตามที่สัญญาเอาไว้ได้เลย

ทุกวันนี้ การที่เอาแต่หยิบยกความผิดคนอื่นมาพูด มันไม่สามารถทำให้คนไทยเขาเลือกพรรคที่"ดีแต่พูด"อย่างพรรคแมลงสาปได้หรอกนะฮ้า...

หรือว่า..................ที่ยอมประกาศยุบสภา เพราะมั่นใจว่าจะโกงได้โดยที่ไม่มีการเอาผิดเหมือนกับที่แล้วๆมาได้อีกครั้ง ชิมิฮ้า...


วันนี้ตอนบ่ายดิฉันไปรับลูกที่เรียนซัมเมอร์เสร็จแล้วเราก็ไปซื้อของกัน ระหว่างทางเราก็คุยกันเรื่องโรงเรียนว่าสิ้นเดือนนี้เราต้องซื้อหนังสือและจ่ายค่าเทอมของปีการศึกษาที่จะมาถึง...

แม่: รองเท้าลูกยังใส่ได้อยู่รึเปล่า ถ้าใส่ไม่ได้แล้วจะได้ซื้อใหม่

ลูก: ยังใส่ได้อยู่ครับ

แม่: พรุ่งนี้ลูกมาโรงเรียนดูบอร์ดให้แม่ด้วยนะลูกว่าค่าหนังสือเท่าไหร่

ลูก: ครับ

แม่: แม่จะได้เตรียมตังได้ถูก แม่จำไม่ได้ว่าปีที่แล้วจ่ายเท่าไหร่ จำได้แต่ค่าเทอมลูกน่าจะไม่เกิน 6000

ลูก: แล้วของพี่ละครับ

แม่: ของพี่เค้าแม่จ่ายแล้วลูก

ลูก: เนี่ย...แม่ครับ อภิสิทธิ์นี่เค้าดีแค่พูดจริงๆนะครับ

แม่: ทำไมเหรอลูก

ลูก: ก็เห็นบอกว่าเรียนฟรี 15 ปี เนี่ยหนูเห็นแม่ยังต้องจ่ายค่าเทอมค่าหนังสืออยู่เลย เค้าเข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้วก็ต้องจ่าย ปีนี้ก็ต้องจ่ายไม่เห็นฟรีจริงเลย

แม่: เอ่อ...ลูกรู้ได้ไงว่าเค้าบอกว่าเรียนฟรี 15 ปี

ลูก: ก็เห็นออกทีวี เวลาไปกรุงเทพก็เห็นป้ายใหญ่เบ้อเร่อ โกหกชัดๆ

...ดูสิคะ ลูกชายอายุ 13 ปี ปีนี้ขึ้น ม.2 ปกติเค้าไม่ได้สนใจข่าวสารอะไรเลยเอาแต่เล่น อยู่ๆพูดขึ้นมาแบบนี้ทำเอาแม่แปลกใจเลย แต่ยังไงๆ วันนี้ลูกก็พูดได้ถูกใจแม่จริงๆ...

หึ หึ...เข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์ม...ไข่...

22... ด้วยความเคารพ 2 ปีกว่าผ่านมา...ยังอยากจะนำพาประเทศไทยอีกหรือครับ

ด้วยความเคารพ 2 ปีกว่าผ่านมา...ยังอยากจะนำพาประเทศไทยอีกหรือครับ
By: janneung

ผมยัง งง งง ไม่หาย เมื่อนายอภิสิทธิ์บอกว่า เลือกตั้งครั้งหน้า

ประชาชนจะเลือกเดินไปสู่อนาคต (ผมไม่ทราบว่า นรก หรือว่าเหว) ก็ให้เลือก ประชาธิปัตย์ หรือหากอยากจะติดกับ ปัญหาความขัดแย้้งเดิมๆ ก็ให้เลือกเพื่อไทย

มันทำให้ผมอดคิด แบบคนมีประสบการณ์ไม่ได้ว่า หรือว่าหากเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง

หมายถึง พันธมิตรจะมีกำลังวังชา จำนวนม็อบมากมายโดยเฉียบพลันเข้ายึดสนามบินเหมือนกับอดีตที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชาย หรือเปล่า

ทั้งๆที่ ตอนนี้ ผมพยายามนั่งนับนอนนับ ตามสัญญาณของ ASTV แล้ว มันดูปะหลอมปะแหลม จนไม่น่าเชื่อว่า ชื่อของม็อบ พันธกิจของม็อบ กับจำนวนม็อบ ทำไมมันถึงได้ตกต่ำติดดินอย่างนี้

กระผมหวังว่า คงไม่มีการเรียกนายประพันธ์ คูณมี ไปพบ แล้วเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเนื้อสองชาม พร้อมของที่ระลึกอีกนะครับ

หาก พรรคประชาธิปัตย์ แพ้เลือกตั้ง

* * * * *

ผมมองผลงานรัฐบาลที่ผ่านมา ด้วยความเคารพอีกครั้ง

ผมบอกตรงๆว่า ไม่เห็นมีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นผลงานแบบที่เขาเ้รียกว่า มาสเตอร์พีช ที่คิดขึ้นมาเองได้

หนำซ้ำ รัฐบาล ของท่านยังได้ รับประทานกับบริบาล สะดือบาย บริบายสะดือด่วน เป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน

ขี้เกียจจะนับว่า อะไรบ้าง ล่อตั้งแต่ ปลากระป่อง มาชุมชนพอเพียง และไทยเข้มแข็ง

ท่านและพรรคร่วม สะด้วบกันแบบ ไม่กลัวโรคเบาหวานจะรับประทาน

หนำซ้ำกฎเหล็ก 9 ข้อที่คุยนักคุยหนา ท่านก็ใช้นะ (ฮา) แต่ท่านนายกฯอาจสมองเสื่อม เพราะปรับ รมต.ที่ไม่โดนอภิปรายไว้วางใจออกจากตำแหน่ง

โทษฐาน ไปยกมือไม่สนับสนุน รัฐมนตรีที่มัวหมอง และตอบไม่ได้ว่า ไอ้ 6001 ล้านบาท ในการทำแอร์พอร์ทลิ้งค์นั้น ทำไมไปยกให้บริษัทเอกชนฟรีๆ

ไม่นับการทวงสัญญา หาเสียงว่า ที่บอกว่าจะยกเลิกการจัดเก็บสรรพสามิตน้ำมัน

ที่ท่านบอกว่า ลดทันทีสองบาทนั้น

กลายเป็นล่อทันที 7 บาท โดยให้ รมต.คลังของท่านออกมากระชุ่นว่า หมดเวลาคนไทยใช้น้ำมันราคาถูก (ฮา)

ครั้นนักข่าวเซ้าซี้มากๆ ท่านนายกฯ ก็ไปง่ายๆ ด้วยคำว่า บริบทมันเปลี่ยนไป

ผมไม่อยากจะหยิบ หรือยก คำพูดเ่ก่าๆ สมัยท่านเป็นฝ่ายค้าน ว่าท่านได้เคยโกหก อะไรประชาชนไว้บ้าง

เพราะหากจะใช้นิ้วมือทั้งสิบ คิดว่าไม่น่าจะนับได้หมด อาจต้องใช้นิ้วเท้าช่วยนับด้วย

ท่าน ดูน่าจะเป็นไอดอล ของการไม่อยู่กับร่องกับรอย ที่สุด ของประเทศนี้ วันนี้ท่านพูดอย่าง พรุ่งนี้ท่านพูดอีกอย่าง พอเข้าตาจน ท่านก็บอกว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป

ท่านนายกฯ การที่การเมืองจะน่าเชื่อถือหรือไม่ มันอยู่ที่คำว่าสัญญาประชาคม

สัญญาประชาคมหมายถึง สัญญาอะไรไว้กับประชาชนแล้ว พวกท่านต้องทำ

มีคำกล่าวเกี่ยวกับนักการเมืองว่า เมื่อท่านพูดเราจะฟัง แต่เมื่อท่านลงมือทำเราจึงจะเชื่อ

ผมเห็นท่านนายกฯ สัญญาไว้เพียบ ในวันรับตำแหน่ง กฎเหล็ก 9 ข้อเอย จะแก้ปัญหาให้ประชาชนปรองดองอย่างเร่งด่วน

แล้วตอนนี้ มันมีอะไรบ้างหละ ที่ท่านทำตามสัญญาไว้บ้าง

อย่านะครับ อย่าบอกว่้า ผลงานเยอะ แต่อ่อนประชาสัมพันธ์ ผมว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา ป้ายดีแต่พูด ไม่ใช่สิ...ป้ายโชว์ผลงานตามท้องถนน รัฐบาลของท่านมีเยอะที่สุด

แต่ประชาชน บอกกับตัวเองว่า รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ข้าวยากหมากแพง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ปัญหาทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองมาพร้อมกันครบ

ท่านไม่ควรตกใจด้วยซ้ำว่า ทำไมในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายอภิสิทธิ์ ถึงมีคนฟังแค่ 6 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆที่โหมฉากเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนเวที วันดีคืนดี ยิงเป็นทีวีพูล คือถ่ายมันทุกช่อง

ยอดมันถึงได้ไม่มีคนดู

เ้คยเอากระจก วัดวิธีการทำงาน ของท่าน มาส่องดูบ้างมั้ยครับ

หวัดมรณะ 2009 จากที่ WHO เคยชมไทย เรื่องสกัดหวัดซาร์ กลายเป็น ต้องส่ายหัวกับไทย ที่ดันยอดคนตายอันดับ 1 ในเอเชีย เป็นอันดับที่ 4 ของโลก ด้วยวาทะ เป็นเองก็หายเอง เป็นแล้วก็จะไม่เป็นอีก

น้ำท่วมอีสาน จนเกิดวีรบุรุษ เฮีย ส.ของช่อง 3 เพราะทนเห็นการทำงานของท่านไม่ไหว ทั้งๆที่หน่วยเกี่ยวข้องเขาก็เตือนท่านล่วงหน้าแล้วว่า งานนี้ น้ำจะท่วมระดับสาหัส

ล่าสุด น้ำท่วมใต้ แทนที่จะเอาบทเรียนจากการทำงานไม่เป็นมาปรับใช้ ปรับปรุงตัว ท่านดันไปด่าหน่วยงานเอกชน ว่าทำงานเอาหน้า ทำงานประชาสัมพันธ์ ทั้งๆที่หากเขาจะเอาหน้า หรือประชาสัมพันธ์

แต่นั่นคือการ ช่วยเพื่อนมนุษย์

ท่านขอทำงานอีกสมัยหนึ่ง ผมฟังแล้วน้ำตาจะไหล

ที่ผ่านๆมา คนไทยยังตกนรกทั้งเป็นไม่พออีกหรือครับ ท่านนาโย้กกกก...

21... ขอตอบพลเอกประยุทธ โดยเฉพาะ?

ขอตอบพลเอกประยุทธ โดยเฉพาะ?
By: โดย องค์ชายแสนซน นักรบประชาธิปไตย
เฟสบุ๊ค กลุ่มคนรักประชาธิปไตยและความยุติธรรม
13 เมษายน 2554

ผมได้ฟังท่านขอพร ให้พร อวยพร คนไทยเมื่อวานนี้แล้วผมสะอึก

ผมไม่รู้ว่า ท่านโมโหหิว เมาเหล้า หรือติดนิสัย"มั่วนิ่ม"มาจากใคร

ท่านถึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด่ากราด กล่าวหา พูดจา กวนส้นตรีน ประชาชนได้เข้าตากรรมการมากๆ

หลายข้อกล่าวหา หลายสิ่งที่ท่านพูด ออกมานั้น มันพูดออกมาจากดำเป็นขาว จากขาวเป็นดำ ได้ชนิดที่ว่า ผมไม่คิดว่า

คนที่เรียกตัวเองว่าชายชาติทหาร จะกล้าเอ่ยปากออกมาได้อย่างนี้

ท่านบอกว่า กองทัพไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ท่่านบอกว่าทหาร และกองทัพเคารพสิทธิของประชาชน ท่านบอกว่าประชาชน อีก 30 ล้าน ควรออกมา Take Action เพื่อปกป้องสถาบัน ท่านกล่าวหาว่าประชาชนต้องการความรุนแรง

ประชาชน ต้องรู้สิทธิ และหน้าที่ ฯลฯ

ผมอยากถามท่านว่า ไปอยู่ในรูไหนมาครับ

ตอนพวกท่านปล้น ประชาชน มาตั้งแต่ปี 2549

หรือว่าโรงเรียน จปร. ไม่เคยสอนวิชาประวัติศาสตร์ ประเทศทร้วยไว้ให้เหล่าทหารหาญได้สำนึก สำเหนียกไว้ว่า

คราใดก็ตามที่กองทัพออกมายึดอำนาจ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด บ้านเมืองจะิฉิบหายทุกครั้ง อยู่ที่ว่าจะฉิบหายแบบใด ฉิบหายมาก หรือฉิบหายน้อย ถ้าฉิบหายมากก็ 14 ตุลา 16 หรือ 6 ตุลา 19 ตลอดจนพฤษภาทมิฬ 35

จนล่าสุด 91 ศพ กลางเมือง

เกิดจากสถาบันกองทัพ ของพวกท่านออกมายึดอำนาจ ทั้งนั้น

ผมได้ยินขุนพล ในกองทัพออกมาบอกว่า สถาบันทหารนี้ สุดยอดกับประเทศไทยแล้ว กองทัพ ทำงานเพื่อชาติ เสียสละมาโดยตลอด

ฟังแล้วจะอ้วก อยากจะถามท่านว่า ทำนา เป็นมั้ย ทำธุรกิจหาเงินไปซื้ออาวุธเป็นมั้ย ท่านรู้มั้ยว่า ปวงชนชาวไทย จะซื้อน้ำปลามาคลุกข้าวกินขวดละ 10 บาท ยังต้องจ่าย Vat 7 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำไปจ่ายเงินเดือน จ่ายค่าอาวุธ จ่ายค่ารถประำจำตำแหน่ง จ่าย งบลับ ให้กองทัพไปเท่าไหร่

ขอถามอีกครั้ง เงินเดือนที่ท่านใช้ กันทั้งกองทัพ มันเป็นเงินจาก ตระกูลบรรพบุรุษ ของพวกท่าน หรือมาจากสมบัติส่วนตัวหรืออั้ยหอกหัก

มันมาจากไหน ถ้าไม่ใช่มาจากหยาดเหงื่อ ของประชาชน

ผมขี้เกียจจะย้อนว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ตรงไหน ทำไม คนไทยเรือนหมื่นเรือนแสน ที่เป็นเพียงเศษเสี้ยว ของคนเสื้อแดงทั้งประเทศมีจำนวนเท่าไหร่

ก็นี่แหละคนไทยส่วนใหญ่ ที่โดนปล้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แล้วก็ต้องมานั่งฟังผู้ชาย ใส่ชุดเขียว ตอแหล ว่้าไม่รู้ ไม่เกี่ยว ไม่ได้ทำ ซ้ำซาก ชนิดที่ตอแหลแบบสนิทใจ ไม่อายสื่อฯ ที่ถามเสียด้วย

โถ...เรื่้องที่แล้วก็แล้วไป ให้มารักกันเหมือนเดิม ผมนึกในใจสั้นๆ ง่ายๆ และคงนึกเหมือนกันคนเสื้อแดงทั่วไปว่า ค..ยมั้ยครับ ฆ่าคนกลางเมืองขนาดนี้

มีหน้ามาบอกว่าที่แล้วก็แล้วไป แบบนั้นมันระยำเกินไป ถ้าแม่ทัพนายกองที่นั่งหน้าสลอน ได้ดิบได้ดี จากกองศพ ประชาชน จะสบายแฮไม่รู้ไม่ชี้

งานนี้ ต้องมีบั้นปลาย ไปนอนในคุกกันบ้าง

อย่าอ้างนะว่ากฎหมายอนุญาต ไม่มีกฎหมายข้อไหน ให้ทหารเอาปืนไล่ยิงประชาชน ไม่ว่าจะเหตุใด ก็ตาม

ผมสมเพช ท่าน ผบ.ทบ. อิบอ๋าย ท่านกล้าพูดว่าทหารไม่ได้ฆ่าประชาชน ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่า สั่งยิงไปกี่ศพ สอดประสานกับการดิ้นเฮือกสุดท้าย จากม็อบคอสะพาน ที่ดิ้นทุรนทุรายเมื่อเห็นคนเสื้อแดงเรือนหมื่นเรือนแสน มารำลึกเหตุการณ์ครบ 1 ปีว่า

เป็นที่แน่ชัดว่า "ทหารไม่ได้นำอาวุธ ออกมาทำร้่ายประชาชน" (นี่ก็น่าจะได้ถ้วยตอแหลแห่งชาติ อีกตัวนึง)

น่าขำ น่าสมเพช น่าเวทนา กับผู้หลักผู้ใหญ่ ในบ้านนี้เมืองนี้ ที่พากันดาหน้ามาออกทีวีว่า ไม่เกี่ยว ไม่รู้ไม่เห็น ไม่เข้าข้างใคร (ฮา)

ทั้งๆที่ประชาชน แม่ม...มีทีวีทุกบ้าน หนังสือพิมพ์ส่งถึงทุกครัวเรือน อินเตอร์เน็ททะลวง เข้าไปถึงก้นครัว

ตาสี ตาสา ยายเมี้ยน ยายมา เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ข่าวจากทั้งไทยและเทศมาโดยตลอด ว่าอะไรมันคืออะไร แค่ที่เขาไม่พูด เพราะเขาอึ้งแดรกกกกก

จะบอกให้นะ ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งมัด ยิ่งแหล คนก็ยิ่งหมั่นไส้

ออกมาคุกเข่าสารภาพบาป กลางทีวี ยังจะดีกว่า คนไทยบางส่วนยังคงพอให้อภัย

ท่านประยุทธ ผู้แข็งกร้าว อย่าคิดว่าชะตากรรมบั้นปลายจะดี ผมดูๆแล้ว บางทีท่าน ต้องบวชเณร เข้าประเทศแบบจอมพลถนอมก็ได้ ใครจะไปรู้

จำไว้ อย่าดูถูกว่าประชาชนโง่ ไม่รู้อะไรเลย เพราะเขาก็แดกปลาเป็นอาหารเหมือนพวกท่านๆ นั่นแหละ



แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศ(สนนท.) หน้ากระทรวงกลาโหม

"ลดงบประมาณทหารอย่าใช้ภาษีเข่นฆ่าประชาชน"

วันนี้(12 เมษายน 2554)เวลาประมาณ 13.45 น. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)ได้อ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือ ต่อตัวแทนกระทรวงกลาโหม เพื่อชี้ให้เห็นว่าขณะที่ทั่วโลกจมอยู่กับความแร้นแค้น ความยากจน และเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงวิกฤติในด้านต่างๆ

รัฐบาลกับ ให้ความสนใจกับความทุกข์ยากเหล่านั้นเป็นเรื่องรองและตัดงบประมาณ ในการช่วยเหลือ เพื่อเพิ่มงบประมาณทางทหารซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับวิกฤติการณ์เหล่านี้ แต่อย่างใด สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอล์กโฮล์ม(Stockholm International Peace Research Institute) เปิดเผยว่างบประมาณทหารของโลกประจำปี 2553 รวมทั้งโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1 ล้าน 6 แสน 3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 50 ล้านล้านบาท

สำหรับประเทศไทยงบประมาณ กลาโหมประจำปี 2551 มีจำนวนถึง 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 39 ของโลก และสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย หรือเป็นรองเพียงแค่ประเทศเวียดนามหากคิดจากงบประมาณทหารต่อสัดส่วนของจีดี พี ที่สำคัญ คือ อาวุธเหล่านี้มาจากภาษีประชาชน แต่กลับถูกนำมาเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ในประเทศ

สนนท.จึงเรียก ร้องให้กองทัพอย่าเป็นเครื่องมือของเครือข่ายจารีตนิยม อำนาจนิยม เพื่อใช้ในการปราบปรามประชาชนควรเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงกับประชาชน โดยการคัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพต้องมาจากการสรรหาของสภาผู้แทน ราษฎรและคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่โดยคณะกรรมาธิการทหารของกองทัพ หรือบุคคลผู้มีบารมีนอกกองทัพ รวมถึงระบบการศึกษาของทหารต้องปลูกฝังให้เห็นคุณค่าในการพิทักษ์สิทธิ เสรีภาพของประชาชนไว้เป็นอันดับหนึ่ง และส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในกองทัพ

ตัดงบประมาณทหาร หยุดใช้ภาษีเข่นฆ่าประชาชน

ด้วยความสมานฉันท์
12 เมษายน 2554
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) และองค์กรสมาชิก