ช่วยกันเพิ่มช่องทาง ข้อมูล ข่าวสาร-สาระความรู้ ให้กับพี่น้องชาวแรงงานนอกระบบ
"รู้ลึก รู้ทัน รู้จริง รู้ก่อน...ไม่โดนเขาหลอกให้ช้ำใจ"
"รอโหลดซักกะเดี๋ยว..ตะเอง"


. . . สวัสดีครับ . . .
ยินดีต้อนรับทุกๆท่าน . . . Welcome to . . .
. . . แ ร ง ง า น น อ ก ร ะ บ บ . . . ร่วมด้วยช่วยกัน . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ

@ ปู้นนน...!!! คนเมืองใต้เจียงใหม่ของหมู่เฮาลงไปตางปู๊นนน..... @ 2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

52... นี่จึงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ผมอยากได้ครับ

@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ 027 Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011
@ 029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน
@ 06 ทหารลูกผู้ชายจริง มีหรือไม่? นายกฯปู..จะเรียกตัวมาใช้งานได้ถูก..คน
@ 07 อ.จูงลา จะล่ารายชื่อไล่นายกฯปู ถาม ปชช. 16 ล้านเสียง หรือยัง???
@ ด้วยความเคารพ...ผมรู้สึกว่าพวกกระบวนการโป้งๆชึ่ง มันอยากให้กรุงเทพฯวิบัติจากน้ำท่วม
@ ชมภาพสวยๆทั้ง 3 ชุด บาหลี-ต้อนรับฮิลลารี-บันคีมูนที่ทำเนียบฯ
@ ทำไม? ทำไม?? ทำไม????????????
@ 08 เห็นด้วยไหม ว่าความเป็นจริง ประเทศไทย เกิดปัญหา จากความไม่กล้า และกฎหมายปัญญาอ่อน
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย
@ ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554
@ แจกปฏิทิน พ.ศ.2555 ครับ เชิญคลิกโหลดที่นี่...
@ "เจ้าอาวาสวัดดอนเมืองจำได้ นายกฯ "ด.ญ.ปู" ทะเลาะกับหมาแมว
@ ชมภาพชุด&Clip...งานแต่งน้องเอม12ธ.ค.54
@ รำค๊าญ..รำคาญที่ยังมีคนพูดว่าอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯตามระบอบประชาธิปไตย
@ 81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’
@ อีกหนึ่งเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญครับ
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00
@ 82 ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk
@ นายกฯที่ฝ่ายต่อต้านกล่าวหาว่าโง่ในสายตาผม
@ "นายกฯปู"เอาใจคนเมืองคอน ใจป้ำ อนุมัติสร้างทางเชื่อมสะพานทันที 53 ล้าน หลังรัฐบาล"มาร์ค"ไม่ดูแล

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...

นี่จึงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ผมอยากได้ครับ
By: ทวดเอง

คงไม่ต้องบอกนะครับนายกรัฐมนตรีที่ผมอยากได้ในตอนนี้ที่สุดก็คือ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนนี้คนเดียว

ความตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งได้พิสูจน์ให้คนทั่วๆไปที่ไม่มีอคติได้เห็นมานักต่อนัก

ความเอาใจใส่ต่อความทุกข์ร้อนของประชาชน ก็เป็นบทบาทสำคัญของคนเป็นผู้นำ

เมื่อผิดก็ยอมรับผิด ไม่ซัดทอดให้กับลูกน้อง นี่ก็เป็นการแสดงออกถึงภาวะผู้นำ

เมื่อผิดก็ยินดีที่จะขอโทษ พร้อมขอโอกาสปรับปรุงให้ดีขึ้น นี่เป็นการแสดงออกถึงสปีริตของผู้นำ

ไม่แก้ข้อกล่าวหา แม้จะเป็นเรื่องเท็จที่อีกฝ่ายพยายามจะดีสเครดิต นี่เป็นการแสดงออกถึงจิตใจอันสูงส่ง

ไม่ย่อท้อ แม้จะถูกหลายฝ่ายตำหนิทั้งเรื่องจริงเรื่องเท็จ นี่เป็นการแสดงถึงธาตุแท้ของความทรหด

ไม่กล่าวหา ไม่ใส่ร้าย ไม่ล่วงเกิน นี่เป็นการแสดงออกถึงความอยากปรองดอง

อ่อนน้อมแต่ไม่อ่อนแอ นี่เป็นการแสดงออกถึงคุณสมบัติของผู้นำที่อยากสมานฉันท์

ทำตามนโยบายที่หาเสียง แสดงออกถึงความเป็นนายกฯของประชาชน

การยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยใจจริง แสดงออกถึงความเป็นผู้นำที่น่าคบหา

ความสง่างามในยามที่ต้องเยือนต่างประเทศ สร้างความประทับใจให้กับคนส่วนใหญ่

ข้อสำคัญ เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยที่ได้คะแนนเสียงเกินครึ่งของสภาอย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ต้องอาศัยอำนาจพิเศษ ไม่ต้องอาศัยค่ายทหาร ไม่ต้องอาศัยกลุ่มงูเห่า สิ่งที่อาศัยก็เพียงความศรัทธาของประชาชนเท่านั้นเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่นานาชาติให้เกียรติมากมายอย่างที่นายกฯไฮแจ๊คไม่เคยได้รับมาก่อน

เราจึงได้เห็นการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากนานาประเทศ เราจึงได้เห็นการเจรจาที่ประสบกับความสำเร็จในหลายเรื่อง และเรายังได้เห็นผู้นำระดับโลกหลายคนต่างแสดงความยินดีกับนายกฯหญิงของเรา ซึ่งเราได้เห็นกันบ้างไหมในสองปีที่ผ่านมากับนายกฯที่พยายามอ้างว่ามาจากเสียงในสภา เช่นกัน ลองคิดดู

ดังนั้นผมจึงอยากบอกว่า คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนนี้ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็น นารีขี่ม้าขาว มาช่วยกู้สถานการณ์ที่เละเทะมาหลายปีให้เข้ารูปเข้ารอยได้ มาสร้างความปรองดอง มาแก้ไขเศรษฐกิจและมาสร้างประชาธิปไตยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ เพื่อที่ประเทศไทยจะได้ยึดอกบนเวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิเสียที

ส่วนเรื่องพูดผิด พูดใหม่ได้ครับ ดีกว่า พวกคิดอย่างพูดอย่างแล้วดันทำอย่าง แบบนี้ต่างหากครับ ทำให้หมดความน่าเชื่อถือไม่ว่าจากประชาชนหรือนานาชาติ เราคงไม่อยากย้อนกลับไปสู่จุดเดิมจริงหรือเปล่าครับ

ดังนั้นผมจึงไม่ผิดหวังที่ได้เลือกนายกรัฐมนตรีคนนี้ และพร้อมจะให้เวลาและโอกาสให้กับคุณยิ่งลักษณ์ได้พัฒนาด้านการเมืองต่อไป พร้อมทั้งบริหารประเทศให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดีเฉกเช่นกับ ชินวัตร ผู้พี่ที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว ซึ่งผมคิดว่าคงจะไม่นานเกินรออย่างแน่นอนครับ เชื่อผมเต๊อะ


สุดยอดการเมืองปี54 "ปู" ผู้นำหญิงคนแรก อิงกระแส "ทักษิณฟีเวอร์" ถึงเป็นนายกฯนกแก้ว แต่แรงฮึดเต็มร้อย
By: www.matichon.co.th

กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการการเมืองไทยจนได้ ภายหลังจาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ

เพราะไม่ใช่แค่เธอมาจากตระกูล "ชินวัตร" เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้หญิงคนแรกของไทย ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำ แม้จะใช้เวลาเพียง 49 วันก็ตาม

มากกว่านั้น สิ่งดังกล่าว ยังถูกพูดถึงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อคราวเลือกตั้ง วันที่ 3 ก.ค. เป็นต้นมา หรือก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า ประเทศไทยมีผู้นำที่เป็นผู้ชายมาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 70 กว่าปีที่ผ่านมา เมื่อครั้งเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475

ขณะเดียวกัน คงจำกันได้ว่า "ยิ่งลักษณ์" ถูกวางตัวจากพี่ชาย นั่นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกรัฐประหารไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ก่อนจะถูกริบหนังสือเดินทาง และถูกพิพากษายึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน

ครั้งหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเอ่ยปากว่า "หากผมโกงจริงขอให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน เราท่านประหารเราชอบ เราไม่ผิดดาบนั้นคืนสนอง วันนี้ผมไม่ได้รับความไม่ยุติธรรมสุดๆ" และขอเป็นเหยื่อคนสุดท้าย

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องลี้ภัยอยู่ต่างประเทศตั้งแต่นั้นเรื่อยมา

ถึงกระนั้นก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีบทบาทต่อการเมืองไทย จนอันเป็นที่รู้กันว่า เขายังไม่ได้หนีไปไหนไกล ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะได้รับฉายา "ทักษิณส่วนหน้า"

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องมารับบทบาท หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นภาระทางการเมือง ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากพี่ชาย เพราะไม่ใช่แค่ "หัวโขน" ที่มาพร้อมภาระ-หน้าที่-ความรับผิดชอบ แต่ยังพ่วงด้วยสารพัดความคาดหวัง เพื่อทำหน้าที่คุมเกมการเมืองทั้งหมด

เมื่อครั้งเดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่า เคยถูกกันไม่ให้มายุ่งกับการเมือง แต่กลับถูกลากมาสู่สมรภูมิการเมืองในฐานะตัวแทนคนสุดท้ายของ "ตระกูลชินวัตร" แถมยังต้องแบกภาระหนักถึง 4 บทบาทในเวลาเดียวกัน

นั่นก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ และถูกวางตัวให้อยู่ในสคริปต์มาโดยตลอด

เช่นเดียวกับข้อหาโดนบงการหรือถูกชักใยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่า "ถ้าเราไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาเจอสื่อถาม ตอบกะทันหันใครจะช่วย การตัดสินใจในครม. ก็ใครจะช่วยล่ะคะ วันนี้ไม่มีใครเชื่อ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป"

ก่อนจะบอกว่า สิ่งที่ยากที่สุดในฐานะนายกฯ คือการตอบคำถามสื่อ ต้องมีทริคในการเก็งข้อสอบทุกๆเช้า ด้วยการดูพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ร่วมกับมอนิเตอร์รายการเล่าข่าวยามเช้าของโทรทัศน์ทุกช่อง

ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความท้าทายและความรู้สึกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในสมรภูมิการเมือง ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย

นี่ยังไม่นับรวมเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ของพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงประชาชนทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะสังคมในโลกออนไลน์ ที่พูดถึงความเหมาะสม ไม่เหมาะสม ดี ไม่ดี ชอบ ไม่ชอบ ฯลฯ

พอๆกับชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่ถูกจับตามทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง หรือเมื่อครั้งมีการชุมนุม ก่อนจะนำไปสู่การสูญเสียแบบหามิได้

จากหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ที่ไม่ใช่แค่การพุ่งเป้าความสนใจมาที่ "นารี" เท่านั้น แต่ยังมีความสนใจในการสืบอำนาจทางการเมืองด้วย เพราะลำพังการต่อสู้ทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่จุดเด่น ต่างจากบทบาทของสตรีที่ต่อสู้ทางการเมืองอย่างเข้มข้น

กลับกลายเป็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกพูดถึงประเด็นอื่นมากกว่า ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโชคร้ายของเธอด้วยหรือไม่ ตลอด 5 เดือนเศษ ที่ต้องเจอโจทย์หนักทุกข้อ

ไล่มาตั้งแต่ปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศ การตัดสินใจทุกอย่างต้องตกมาอยู่ที่เธอเพียงคนเดียว ซึ่งพร้อมจะเกิดความผิดพลาดได้ทุกเมื่อ และถือว่าเป็นภาระอันหนักอึ้งเมื่อเทียบกับความ "เก๋า" ทางการเมือง แม้กระทั่งการถูกล้อเลียนว่า "เอาอยู่"

แม้เรื่องน้ำท่วมจะไม่ใช่เรื่องที่ถนัด แต่ก็สามารถวัดความสามารถในการบริหารงาน หรือความเป็นผู้นำได้อยู่เหมือนกัน และตั้งแต่รับตำแหน่งมา ก็วนอยู่แต่เรื่องน้ำท่วม

ในระหว่างนี้ ก็มีเรื่องการผ่านร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เข้ามาพอเป็นสีสันบ้าง แม้ตัวละครหลักจะไม่ใช่น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ก็เป็นที่กล่าวถึงจนได้ เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขาดการประชุมครม. ซึ่งเป็นวันเดียวกับการผ่านร่างพ.ร.ฎ.อภัยโทษ รวมไปถึงกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)

มากกว่านั้น ยังมีเรื่องของการคืนพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนจะนำมาสู่การยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งโดยพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดยังมีเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นฐานเสียงอย่างดีมาโดยตลอดของพรรคเพื่อไทย

ทั้งหมด ก็ถูกกล่าวถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ แทบทั้งสิ้น

มากกว่านั้น ยังมีในเรื่องของความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำๆซากๆ ก่อนจะกลายเป็นจุดโจมตีของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะเรื่องการลงรูปพระบรมฉายาลักษณ์ผิด

หลายสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็มีมาให้เห็นอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เมื่อภาพของน.ส.ยิ่งลักษณ์ กลายเป็นกระแสประชาธิปไตย เมื่อครั้งเดินทางเยือนประเทศพม่า และได้พบกับนางออง ซาน ซูจี

คำว่า "นารี" ขี่กระแสประชาธิปไตย ก็เกิดขึ้น

ฉะนั้นการเดินทางเยือนพม่าและภาพการจับมือระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับนางออง ซาน ซูจี กลายเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม

และอีกหลายๆเหตุการณ์ในฐานะผู้นำของประเทศไทยในการพบผู้นำ ขณะเยือนต่างประเทศ แม้กระทั่ง การเข้าร่วมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือการประชุมอาเซียน ซัมมิท ครั้งที่ 19 ประเทศอินโดนีเซีย

อีกทั้ง ภาพเดินตีคู่ผู้นำเหล่าทัพของไทย ก็ปรากฏขึ้น การก่อนจะถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของไทย

ที่สำคัญน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเดินตรวจแถวกองทหารครบทั้ง 3 เหล่าทัพแล้วด้วย

นอกจากนี้ ยังปรากฏภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ขณะเยือนประเทศลาว เวียดนาม สิงค์โปร์ และอินโดนีเซีย ทั่วอุษาคเนย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และน้อยนักที่จะเห็นภาพลักษณะนี้


ครั้งแรกของประเทศไทยอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงกลาโหม ณ ศาลาว่าการกลาโหม ถนนสนามไชย


เช่นเดียวกับการนำนายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ขณะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย

ล่าสุดกองทัพภาค 1 ได้ขึ้นรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาติดแทนนายอภิสิทธิ์ ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพแล้ว และนี่ก็ถือครั้งแรกที่รูปผู้หญิงติดอยู่บนสุดของ "บิ๊กกองทัพ"

และอีกหลายๆเรื่อง ต่อจากนี้ไป ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาเป็นผู้นำประเทศ ที่ไม่เฉพาะในประเทศเท่านั้น ต่างชาติก็ได้มีการพูดถึงเช่นกัน

บทบาทข้างต้น ยังไม่มีใครสรุปได้ว่าดีหรือไม่ดี ถือประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่ อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เผยผลสำรวจเรื่อง "เสียงสะท้อนชาวอีสานกับผลงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์" ครั้งที่ 1 ในรอบปี คะแนนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังนำ

จากผลดังกล่าว จะเห็นได้ว่าคนอีสานยังให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อ ประเมินผลงานให้ผ่านทุกด้าน การต่างประเทศประเมินผ่านสูงสุด แม้การแก้ปัญหาภัยธรรมชาติคะแนนรั้งท้าย และนักการเมืองคนอื่นๆอาจจะโดดเด่นกว่า

ขณะที่หลายๆ โพล คะแนนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้แย่เช่นกัน หรือดีขึ้นด้วยซ้ำ

เหตุการณ์ทั้งหมด อาจเรียกได้ว่าเป็น "ปรากฏการณ์ยิ่งลักษณ์" หรือ "ยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์" ก็ว่าได้ หลังจากที่ครั้งหนึ่ง ได้มีกระแส "ทักษิณฟีเวอร์" มาแล้ว

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มีบทบาททางการเมืองร้อนแรงที่สุดในปีนี้ ไล่ตั้งแต่การหาเสียง จนถึงภาระหน้าที่อันทรงเกียรติ

ฉะนั้น การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถฝ่าความขัดแย้งทางการเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาว ท่ามกลางซากปรักหักพังมาได้ จึงถือว่า "ไม่ธรรมดา"

จนสามารถแจ้งเกิดได้เกิดในวงการการเมืองได้ แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะได้รับฉายา "ดาวดับ" ในสภาฯ "กระดองปูแดง"

ล่าสุด เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาวันที่ 5 ธันวาคม 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) ให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อีกด้วย

เท่ากับว่าการได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ก็ถือเป็นการยอมรับในตำแหน่ง

คำถามต่อจากนี้ก็คือว่า ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เป็นนายกฯ เธอจะมีบทบาทอะไรในทางการเมือง

ขณะเดียวกัน ถ้าประเทศไทยไม่จมอยู่กับ "เอาทักษิณ" หรือ "ไม่เอาทักษิณ" ก็ไม่รู้ว่าจะได้เห็นอะไรในตัว "ยิ่งลักษณ์"

ก่อนจะส่งผลให้ทั่วโลกหันมาเคลื่อนไหวในบทบาทของ "สตรี" เพื่อให้เข้ามาทำงานทางการเมืองและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมืองมากขึ้นและต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

51... "ดร.สุนัย" เอาจริง ยื่นเอกสาร "ศาลอาญาระหว่างประเทศ"

ลืมกันหรือยัง...เมื่อ"กบฏ"ออกกฎหมายอภัยโทษให้ตัวเอง

หลัง 19 กันยายน 2549 สิ่งแรกที่ คปค. ประกาศคือ ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสีย

แล้วใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตราที่สำคัญอย่างยิ่งคือ มาตรา 36 และ มาตรา 37

ในสถานการณ์ปัจจุบันขอยกแค่ มาตรา37 มาให้เปรียบเทียบ

"มาตรา 37 บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึด และควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 ของหัวหน้า และคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมตลอดทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวหรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอันได้กระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น

การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำหรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อน หรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิด และความรับผิดโดยสิ้นเชิง"

* * * * *

อ่านกี่ครั้งกี่ครั้งผมก็อดสำลักความอยุติธรรมไม่ได้ เสมือนใครสักคนอัดกรวดทรายยัดลงลำคอทุกที

จริงๆแล้ว มาตรานี้เปรียบดั่งคำสารภาพผิดดีๆนี่เอง

ไหนอ้างว่าต้องทำเพื่อแก้ไขบ้านเมืองให้พ้นจากภัยพิบัติ เมื่อทำความดีแล้วจะผิดได้อย่างไร

แล้วใยจึ่งออกกฎหมายอภัยโทษให้ตนเอง?????

วิถีชน prachatalk.com 17พ.ย.2554

* * * * *

เขาเอามายัดไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ใช่แค่ประกาศ คปค.อย่างเดียว โดยยกเอา ฉบับชั่วคราว มารับรองถาวรจนถึงวันนี้

มาตรา 309 บรรดาการใดๆที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
มีชัย ฤชุพันธุ์

@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ 027 Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011
@ 029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน
@ 06 ทหารลูกผู้ชายจริง มีหรือไม่? นายกฯปู..จะเรียกตัวมาใช้งานได้ถูก..คน
@ 07 อ.จูงลา จะล่ารายชื่อไล่นายกฯปู ถาม ปชช. 16 ล้านเสียง หรือยัง???
@ ด้วยความเคารพ...ผมรู้สึกว่าพวกกระบวนการโป้งๆชึ่ง มันอยากให้กรุงเทพฯวิบัติจากน้ำท่วม
@ ชมภาพสวยๆทั้ง 3 ชุด บาหลี-ต้อนรับฮิลลารี-บันคีมูนที่ทำเนียบฯ
@ ทำไม? ทำไม?? ทำไม????????????
@ 08 เห็นด้วยไหม ว่าความเป็นจริง ประเทศไทย เกิดปัญหา จากความไม่กล้า และกฎหมายปัญญาอ่อน
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย
@ ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554
@ แจกปฏิทิน พ.ศ.2555 ครับ เชิญคลิกโหลดที่นี่...
@ "เจ้าอาวาสวัดดอนเมืองจำได้ นายกฯ "ด.ญ.ปู" ทะเลาะกับหมาแมว
@ ชมภาพชุด&Clip...งานแต่งน้องเอม12ธ.ค.54
@ รำค๊าญ..รำคาญที่ยังมีคนพูดว่าอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯตามระบอบประชาธิปไตย
@ 81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’
@ อีกหนึ่งเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญครับ
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...



"ดร.สุนัย" เอาจริง ยื่นเอกสาร "ศาลอาญาระหว่างประเทศ"

วันที่ 9 ธันวาคม 2554 ส.ส.สุนัย จุลพงศธร พร้อมด้วย ฯพณฯ ดร.วีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์และคณะ ได้เดินทางไปศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งมีบัลลังก์ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์

ในการณ์นี้ ส.ส.สุนัย จุลพงศธร ในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ ได้นำคณะเข้าเยี่ยมศาลอาญาระหว่างประเทศ International Criminal Court (ICC.) เพื่อคารวะ นายฮันส์-พีเทอร์ โคล (Hans-Peter Kaul) รองประธานคนที่2 รักษาการในตำแหน่งประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ ได้มีการสนทนาถึงความเป็นมาของ ICC. และบทบาทในการปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศที่เป็นชาติสมาชิก

มร.ฮันส์ ได้กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีหลายประเทศได้มีความตื่นตัวที่จะเข้ามาร่วมเป็นสมาชิก ICC. แล้วกล่าวต่ออีกว่า ท่านเคยเดินทางมาเยือนประเทศไทยเมื่อเดือนมกราคม 2554 ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ท่านจะเดินทางมายังไทยนั้น ICC. มีสมาชิก 114 ประเทศ แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของโลกปัจจุบันเพียง 10 เดือนจนถึงวันนี้ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 120 ประเทศ และประเทศที่อยู่ใกล้ๆประเทศไทยที่อยู่ในกลุ่มชาติอาเซียนที่เป็นสมาชิก ICC. แล้วอย่างสมบูรณ์ คือ ประเทศฟิลิปปินส์ กับ กัมพูชา และขณะนี้ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ กำลังดำเนินการที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกและลงนามในสัตยาบันเข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ต่อไป

มร.ฮันส์ ยังกล่าวต่ออีกว่า เป็นความเข้าใจผิดในเรื่องของการที่ประเทศที่เป็นสมาชิก ICC. แล้วจะเป็นการลิดรอนอำนาจอธิปไตยทางศาลของแต่ละประเทศ เพราะว่า ICC. นั้นจะต้องเคารพอธิปไตยของศาลในประเทศนั้นๆด้วย แล้วเรื่องทั้งหมดนั้นจะต้องเริ่มที่ศาลของประเทศนั้นๆก่อน เว้นเสียแต่ว่าประเทศนั้นๆมีภาวะสงครามหรือเหตุความจำเป็นต่างๆที่ทำให้ไม่สามารถจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมได้ เรื่องต่างๆเหล่านั้นจึงจะเข้าระบบงานของ ICC. และหากเข้ามาอยู่ในระบบของ ICC. แล้วก็จะให้ความช่วยเหลือทางด้านข้อมูลข่าวสารต่างๆที่เกี่ยวกับระบบความยุติธรรมของนานาชาติที่เป็นสมาชิกร่วมกัน

สำหรับประเทศไทยได้เข้าร่วมลงนามเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2543 ในสมัยรัฐบาลของ นายชวน หลีกภัย แต่ยังมิได้ลงนามในสัตยาบันจนถึงขณะนี้ เนื่องจากต้องพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายในประเทศที่กำหนดไว้ก่อน โดยก่อนหน้าการลงนามคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2542 แต่งตั้ง "คณะกรรมการพิจารณาธรรมนูญศาลอาญาระหว่างประเทศ" ทั้งหมด 16 ท่าน โดยมีตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ อาทิ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ, รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, สำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, สภาความมั่นคงแห่งชาติ, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, องค์การระหว่างประเทศ, เจ้าหน้าที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศอีก 3 คน เป็นเลขานุการ ผู้ช่วยเลขาฯ นอกนั้นทั้งหมดเป็นคณะกรรมการโดยมี อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายฯ เป็นประธานฯ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นควรเหมาะสมถูกต้องจึงมีมติเห็นชอบในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัยจึงเข้าร่วมลงนามเข้าเป็นสมาชิกของ ICC. แต่ในทางปฏิบัติจำเป็นจะต้องดำเนินการปรับกระบวนการทางกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและจะต้องลงนามในสัตยาบันเข้าเป็นภาคี แต่เหตุการณ์ก็ปล่อยทิ้งมากว่า 10 ปีแล้วไม่ได้ดำเนินการให้เป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์จนถึงปัจจุบัน

สำหรับประธานศาลอาญาระหว่างประเทศคนปัจจุบันท่านนี้น่าสนใจมากเพราะเป็นชาวเอเชีย ชื่อ นาย ซอง ซาง-ฮยุน (Song Sang-Hyun) ซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ ในการสนทนาในครั้งนี้ท่านประธานฯ ได้สื่อผ่านทาง มร.ฮันส์ รองประธานคนที่2 ซึ่งเป็นรักษาการประธานฯ ขอให้ ส.ส.สุนัย จุลพงศธร ในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ ได้นำความเข้าใจอันดีและถูกต้องนี้ไปเผยแพร่ต่อหน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐบาล, สภา, หน่วยงานทหาร, ศาล และประชาชน เพื่อเชิญชวนให้ประเทศไทยได้ลงนามในสัตยาบันเข้าเป็นภาคีโดยสมบูรณ์

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

50... "น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ"ที่นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.54

ลืมกันหรือยัง...เมื่อ"กบฏ"ออกกฎหมายอภัยโทษให้ตัวเอง

หลัง 19 กันยายน 2549 สิ่งแรกที่ คปค. ประกาศคือ ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสีย

แล้วใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตราที่สำคัญอย่างยิ่งคือ มาตรา 36 และ มาตรา 37

ในสถานการณ์ปัจจุบันขอยกแค่ มาตรา37 มาให้เปรียบเทียบ

"มาตรา 37 บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึด และควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 ของหัวหน้า และคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมตลอดทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวหรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอันได้กระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น

การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำหรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อน หรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิด และความรับผิดโดยสิ้นเชิง"

* * * * *

อ่านกี่ครั้งกี่ครั้งผมก็อดสำลักความอยุติธรรมไม่ได้ เสมือนใครสักคนอัดกรวดทรายยัดลงลำคอทุกที

จริงๆแล้ว มาตรานี้เปรียบดั่งคำสารภาพผิดดีๆนี่เอง

ไหนอ้างว่าต้องทำเพื่อแก้ไขบ้านเมืองให้พ้นจากภัยพิบัติ เมื่อทำความดีแล้วจะผิดได้อย่างไร

แล้วใยจึ่งออกกฎหมายอภัยโทษให้ตนเอง?????

วิถีชน prachatalk.com 17พ.ย.2554

* * * * *

เขาเอามายัดไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ใช่แค่ประกาศ คปค.อย่างเดียว โดยยกเอา ฉบับชั่วคราว มารับรองถาวรจนถึงวันนี้

มาตรา 309 บรรดาการใดๆที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
มีชัย ฤชุพันธุ์

@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ 027 Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011
@ 029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน
@ 06 ทหารลูกผู้ชายจริง มีหรือไม่? นายกฯปู..จะเรียกตัวมาใช้งานได้ถูก..คน
@ 07 อ.จูงลา จะล่ารายชื่อไล่นายกฯปู ถาม ปชช. 16 ล้านเสียง หรือยัง???
@ ด้วยความเคารพ...ผมรู้สึกว่าพวกกระบวนการโป้งๆชึ่ง มันอยากให้กรุงเทพฯวิบัติจากน้ำท่วม
@ ชมภาพสวยๆทั้ง 3 ชุด บาหลี-ต้อนรับฮิลลารี-บันคีมูนที่ทำเนียบฯ
@ ทำไม? ทำไม?? ทำไม????????????
@ 08 เห็นด้วยไหม ว่าความเป็นจริง ประเทศไทย เกิดปัญหา จากความไม่กล้า และกฎหมายปัญญาอ่อน
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย
@ ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...


"ยิ่งลักษณ์" น้ำตาคลอ ย้ำไม่เคยท้อเพราะได้กำลังใจจากประชาชน ให้คำมั่นจะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปอย่างเร็วที่สุด
By: มติชน แมวน้ำสีคราม

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย(มท.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เดินทางมายังบริเวณลานหน้าศากลางจังหวัดนครสวรรค์เยี่ยมชมการจัดกิจกรรม "บำบัดทุกข์ บำรุง ราษฎร์-รัฐรวมใจ เพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.นครสวรรค์" ซึ่งมีประชาชนจากอำเภอต่างๆ จำนวนมากมาให้กำลังใจ


นายกฯยิ่งลักษณ์ ได้รับมอบสิ่งของจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคตามแผนฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด มอบเมล็ดพันธุ์พืชแก่ตัวแทนเกษตรกร และมอบเงินช่วยเหลือครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 36,498 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 182 ล้านบาทเศษ


นายกฯยิ่งลักษณ์ ได้ทักทายประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม และได้ร่วมประกอบอาหารกลางวัน คือ ผัดกระเพราหมูสับ และตักแจกจ่ายให้ประชาชนมารอรับข้าวกล่องจากนายกจำนวนมาก



นายกฯยิ่งลักษณ์ กล่าวปราศรัยทักทายว่า ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ชาวนครสวรรค์ต้องประสบอุทกภัย รัฐบาลทราบดีว่าประชาชนเดือดร้อนขนาดไหน การที่ได้เดินทางกลับมานครสวรรค์วันนี้รู้สึกดีใจ ที่น้ำที่เคยท่วมลดลง เห็นสีหน้าชาวบ้านยิ้มแย้มแจ่มใสอีกครั้ง สิ่งที่ผ่านมา 2 เดือนทำให้คนนครสวรรค์มีความเข้มแข็ง ที่ต้องต่อสู้กับมหาอุทกภัยครั้งนี้ น้ำท่วมในจังหวัดนครสวรรค์สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นคือความรัก ความสามัคคีของประชาชน ที่ร่วมกันต่อสู้ มีธารน้ำใจจากทุกภาคส่วนหลั่งไหลมาช่วยเหลือ


ยังมีอีกหลายจังหวัดที่น้ำยังท่วมอยู่ ซึ่งจะต้องร่วมกันต่อสู้อย่างชาวนครสวรรค์ ซึ่งเป็นต้นแบบของความอดทน ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องฟื้นฟูจิตใจ ด้วยการทำความสะอาด และให้ความช่วยเหลือหลังน้ำลด นอกจากจะฟื้นฟูจิตใจคนไทยแล้วแล้ว ยังเป็นการฟื้นความเชื่อมั่นของคนไทยและความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ ที่กำลังจับตาดูการต่อสู้ปัญหาของคนไทยอยู่ ดังนั้นเราต้องสร้างความมั่นใจให้ชาวต่างชาติได้รับรู้


"การฟื้นฟูดูแล การเยียวยาให้ความช่วยเหลือ ถนนหนทางจะต้องทำให้เรียบร้อยภายใน 45 วัน ทุกอย่างต้องกลับสู่ภาวะปกติภายใน 45 วันจากนี้ เพราะประชาชนทนทุกข์มานานมานาน ขอยืนยันว่าดิฉันไม่เคยท้อถอย เพราะรู้ว่าทุกครั้งที่ท้อถอย ก็มีกำลังใจจากประชาชน ขอให้ชาวนครสวรรค์เป็นตัวอย่างของจังหวัดอื่นๆ ให้รู้ถึงความเข้มแข็ง ว่าเราจะฟื้นฟูและเดินหน้าทำให้ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนเดิม ด้วยความสามัคคี และทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไป


วันนี้เราผ่านโรคร้ายมาแล้ว ถือเป็นวันดีที่จะทำให้จังหวัดนครสวรรค์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว" นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและมีน้ำตาคลอเบ้า โดยน้ำเสียงของนายกรัฐมนตรีจะหายเป็นห้วงๆ ทำให้ผู้ร่วมงาน ส.ส.และรัฐมนตรีที่ยืนด้านหลังนายกฯ ถึงกับนิ่งเงียบ ก่อนที่จะมีเสียงตะโกน ขอให้นายกสู้ๆ ต่อไป และจบลงด้วยเสียงโห่ร้องให้กำลังใจนายกฯอย่างกึกก้องจากประชาชนชาวนครสวรรค์...


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกองทัพที่เป็นกำลังหลักในการช่วยเหลือประชาชนจากน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้

นอกจากนายกฯยิ่งลักษณ์ จะเดินทักทายกับประชาชนแล้ว นายกรัฐมนตรียังได้ร่วมกิจกรรมทาสีบ้านของ น.ส.ณัฐนันท์ ศิริวรรณ และ นางทัศนีย์ ศิริวรรณ ชาวชุมชนวัดพรมจริยาวาส ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมด้วย ก่อนจะนั่งรถตรวจความเสียหายและการฟื้นฟูหลังน้ำลดภายในตัวเมืองนครสวรรค์ จากนั้นจึงเดินทางกลับ


Comment...

เมื่อผมได้เห็นน้ำตาจากผู้นำหญิงใจเพชร ผู้ที่ไม่เคยโทษ ไม่เคยให้ร้ายใคร เธอเพียงมุ่งไปข้างหน้าเพราะเห็นแก่ความสำคัญของประชาชนมาก่อนสิ่งอื่นใด เป็นน้ำตาที่หลั่งด้วยความเสียใจต่อการสูญเสียและบอบช้ำของประชาชน เห็นแล้วตื้นตันใจครับ...นายกหญิงแกร่ง"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"

และผมอยากจะบอกว่า...

"ผมและครอบครัวตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย..."




ภาพกษัตริย์และราชินีนอร์เวย์ทรงซับน้ำตา ขณะเสด็จไปร่วมพิธีไว้อาลัยให้กับเหยื่อในเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชน 93 ศพ

อัลบั้มภาพน้ำตาผู้นำ...คลิกที่นี่

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า

"ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ล้วนแต่ต้องหลั่งน้ำตาและสะเทือนใจกับความทุกข์ยากของประชาชน มีแต่เผด็จการและทรราชย์เท่านั้นที่เพิกเฉยกับการบาดเจ็บและล้มตายของราษฎร"

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

49... ความลับไม่มีในโลก...ในที่สุด ข้อสงสัย"ปล่อยน้ำเพื่อฆ่ายิ่งลักษณ์" ก็เป็นความจริง

@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ 01 คุณปูครับ...ปรับเปลี่ยนงาน ปชส.ของรัฐบาลและ ศปภ.ได้แล้ว
@ 68> นายกฯปูเฉียบขาด งัดม.31พ.ร.บ.ป้องกันฯยึดอำนาจ กทม.
@ Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011
@ 77 ดูคลิปวีดีโอชัดๆ "นายกฯยิ่งลักษณ์" ยิ้มทั้งน้ำตา ไม่ท้อ(ค่ะ) ไม่ร้องไห้ ... ต้องเข้มแข็ง
@ 69> ระหว่าง นายกฯอภิสิทธิ์ กับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ใครควรถูกตำหนิมากกว่ากัน
@ หลังน้ำลด แนะนายกฯปูจัดให้หนัก "เคลียร์บิล" ยกเครื่อง
@ 03 สองเขื่อนยักษ์ ปริศนาลับ! กำจัดปู! บทพิสูจน์น้ำ"หมื่นล้านคิว" มาจากไหน? ใครวางงาน?
@ Login"เรารักความดี" โต้กลับ ปชป. "ใครกันแน่ที่บริหารน้ำผิดพลาด"
@ 029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน



ในที่สุด ข้อสงสัย"ปล่อยน้ำเพื่อฆ่ายิ่งลักษณ์" ก็เป็นความจริง
By: ปลายอ้อกอแขม

ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิด มันจะมิดได้อย่างไร ที่สุภาษิตไทยว่าไว้ ก็เป็นความจริง ว่าน้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้ มันต้องมีสาเหตุ ถึงแม้ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติส่วนหนึ่งก็จริง แต่ในที่สุด ก็รู้จนได้ว่ามันเป็นภัยจากน้ำมือมนุษย์ร่วมกระทำด้วย...สาระเลว

ที่พูดๆกันว่า ท่วมครั้งนี้เป็นน้ำท่วมการเมือง ที่พูดกันว่าปล่อยน้ำเพื่อฆ่ายิ่งลักษณ์ ที่พูดว่าปล่อยน้ำเพื่อทำลายรัฐบาล ของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช เมื่อวันก่อน ทั้งหมดล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น...ชัดครับ!

กรุณาอ่านข่าวที่ผมแปะลิ้งค์ไว้สักนิดครับ แล้วท่านจะซาบซึ้ง มาถึงบางอ้อ แล้วเลยต่อมาบางพลัดที่น้ำกำลังท่วมอยู่...จากมติชน

"เจ๊ะอามิง" หอบข้อมูลแฉรัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารน้ำผิดพลาด กักน้ำจนเขื่อนวิกฤต

นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง รมช.มหาดไทยเงาพรรคประชาธิปัตย์ นำสถิติระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลมาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อให้เห็นว่าระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลยุคที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารงานสูงถึง 9 พันล้านลูกบาศก์เมตรในวันที่ 3 สิงหาคม แต่ปล่อยให้น้ำสูงถึง 1.3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรจึงค่อยปล่อยน้ำออกมา แตกต่างจากรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่จะพร่องน้ำจากเขื่อนเมื่อระดับน้ำสูงไม่เกิน 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่ทำไมรัฐบาลชุดนี้กับปล่อยให้ระดับน้ำสูง 1.3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรค่อยปล่อยน้ำ ถือว่าเกินระดับที่เขื่อนจะรับไหว เท่ากับตั้งใจให้เกิดน้ำท่วมใช่หรือไม่

สิ่งที่พูดไม่ใช่การโยนความผิดไปมา เพราะข้อมูลนำมาจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้ที่http//tiwrm.haii.or.th แต่ก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะปิดข้อมูลน้ำที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวหรือยัง

คำพูดนี้ ถ้าคนที่ยังมีสติบริบูรณ์แล้ว คงจะไม่พูด เพราะมันเป็นการฆ่าตัวเอง แต่เพราะเทพยดา พระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมืองพระทรงเมือง ที่ปกปักรักษาประเทศไทย ได้ดลใจให้คนชั่วเปิดเผยตัวเองออกมา เพื่อให้คนได้รู้ได้เห็นว่า อ้ายพวกนี้คือคนชั่วที่แฝงตัวเป็นนักการเมือง แต่กลับทำร้ายประชาชน ทำร้ายพี่น้องไทยกันเองอย่างสาหัส เพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น..เทวดาก็ทนไม่ได้

เทพยดาดลใจให้นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง พูดเพื่อเปิดเผยความเลวชั่วของพรรคการเมืองของตนเอง ที่ทำร้ายประชาชน จนหมดเปลือก...ดังนี้

1. วันที่ 3 สิงหา น้ำในเขื่อนภูมิพลสูง 9 พันล้านลูกบาศก์เมตร
2. ปล่อยให้น้ำสูงถึง 1.3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร
3. ถ้าเป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะรีบพร่องน้ำจากเขื่อนเมื่อระดับสูงไม่เกิน 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร

นั่น ก็หมายความว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งใจให้เกิดน้ำท่วมใช่หรือไม่...สรุปว่าเล๊วเลว!

ถ้าใคร ไม่มีความจำสั้นเหมือนปลาทอง ที่จำได้แค่ 4 วินาที แล้วก็ลืมหมด คงจำได้ว่านายกฯยิ่งลักษณ์ ผ่านการเป็นนายกฯตามกระบวนการรัฐธรรมนูญปี 50...อย่างไร?

3ก.ค.54 เลือกตั้งเสร็จ กว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งใช้เวลา 30 วัน ก็ตรงกับวันที่ 3 สิงหา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่ได้บริหารประเทศ...ใช่หรือไม่?

แล้วช่วงนั้น นายอภิสิทธิ์ ยังเป็นนายกฯรักษาการอยู่...ใช่หรือไม่?

วันที่ 8 สิงหาคม มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี...ใช่หรือไม่?

แล้วช่วงนั้น นายอภิสิทธิ์ ก็ยังเป็นนายกฯรักษาการอยู่...ใช่หรือไม่?

วันที่ 8-22 สิงหาคม มีการจัดทำกรอบนโยบายบริหารประเทศของพรรคการเมือง เพื่อแถลงต่อรัฐสภา...ใช่หรือไม่?

แล้วช่วงนั้น นายอภิสิทธิ์ ก็ยังเป็นนายกฯรักษาการอยู่...ใช่หรือไม่?

วันที่ 23-25 สิงหาคม เป็นวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลในสภาอยู่...ใช่หรือไม่?

แล้วช่วงนั้น นายอภิสิทธิ์ ก็ยังเป็นนายกฯรักษาการอยู่...ใช่หรือไม่?

วันที่ 26 สิงหาคม นายกฯยิ่งลักษณ์ประชุมข้าราชการระดับสูง เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาลต่อกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ...ใช่หรือไม่?

แล้ววันนั้น นายอภิสิทธิ์ ยังเป็นนายกฯรักษาการอยู่...หรือไม่?

จากวันที่ 3 กรกฎาคม-ถึงวันที่ 26 สิงหาคม ถือว่านายอภิสิทธิ์ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นนายกฯรักษาการอยู่ มีอำนาจสั่งการในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อยู่แล้ว แต่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารงานเต็มตัวเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2554...ใช่มั๊ยครับ?

แล้วสิ่งที่นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง สส.ภาคใต้ รัฐมนตรีเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำหลักฐานข้อมูลน้ำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน กล่าวหาว่ายิ่งลักษณ์ ตั้งใจให้เกิดน้ำท่วม...มันบ้าหรือเปล่า?

หากวันที่ 3 สิงหามีมวลน้ำในเขื่อนภูมิพล 9 พันล้านฯจริง แล้วเหตุไฉนนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นนายกฯรักษาการณ์อยู่ ทำไมไม่สั่งการให้"พร่อง"น้ำออกมา...ทำไมครับ?

จากวันที่ 3-26 สิงหาคม ก่อนที่ยิ่งลักษณ์จะเข้ามาบริหารงาน มวลน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่...อ้ายมาร์คมันทำอะไรอยู่?

เพื่อนๆครับ หากดูตามข้อมูลนี้ น้ำในเขื่อนสูงขึ้นมากตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ แต่มิได้มีการดำเนินการใดทั้งสิ้น ปล่อยให้น้ำล้นเขื่อนถึงระดับ 1.3 หมื่นล้านลูกบาศก์ จนมาถึงวันที่ยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารงานเต็มตัว เมื่อ 27 สิงหา ยิ่งลักษณ์จึงเริ่มดำเนินการ...แล้วมาด่ายิ่งลักษณ์ว่าต้องการให้น้ำท่วม!

ดีนะ ที่เทวดาดลใจให้คนชั่วมันอ้าปากพูดความจริง เข้าใจว่ามันคงอยากจะพูดอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่อย่างนี้ แต่เทวดาดลใจให้มันพูดออกมาอีกอย่างนี้ เพื่อประจานความเลวชั่วของพวกมัน...ด้วยปากของพวกมัน

ความจริงเปิดเผยแล้วครับ ความจริงที่ว่า "ใครวางยา"หวังทำลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ให้จมน้ำตาย น้ำท่วมการเมือง เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องร่วมชาติแต่อย่างใด เพื่อที่พวกมันจะได้กลับมาเสวยอำนาจอีกครั้ง...เห็นแล้วใช่มั๊ย!!!





ตอนนี้"พวกเขา"กลัวยิ่งลักษณ์มากกว่าทักษิณ
(กระทู้ที่โพสต์แล้วโดนลบ 2 ครั้งในราชดำเนิน พันติ๊บ)
By: บุคคลไปทั่ว 03 November 2011

ตามหัวข้อกระทู้ที่จั่วไว้นั้นเป็นเรื่องจริงครับ เพราะผมมีพรรคพวกเป็นเพื่อนสนิทกับคนในพรรคเก่าแก่หลายคน

สมัยทักษิณตั้งพรรคใหม่แล้วชนะเลือกตั้ง "พวกเขา" เกิดอาการงงและตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะสรุปว่า

"คนไทยเห่อของใหม่"

พร้อมทั้งปรามาสว่า "ไอ้หน้าจืด" (ตอนนั้นฉายาหน้าเหลี่ยมยังไม่เกิด) ที่เป็นพ่อค้า ไม่มีประสบการณ์การเมืองจะไปได้สักกี่น้ำ แถมนโยบายก็เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน พร้อมกับเอานโยบายมาแปะที่บันไดเดินเหยียบ หัวร่อต่อกระซิกกันคิกคัก

แต่พอทักษิณบริหารประเทศ เป็นรัฐบาลชุดแรกจากการเลือกตั้งที่อยู่ครบเทอม ก็เริ่มจะหัวเราะไม่ออก

พอเลือกตั้งครั้งที่สองทักษิณกลับมาอย่างถล่มทลาย การล้มรัฐบาลจึงเริ่มอย่างเป็นขบวนการอย่างเปิดเผย

แต่อย่าลืมว่า รัฐบาลทักษิณไม่ได้ล้มเพราะขบวนการเหล่านี้ แต่ล้มเพราะการยึดอำนาจเอาดื้อๆ ตอนเขาไม่อยู่ แต่การทำแบบนั้นมันใช้ไม่ได้ในปัจจุบันแล้ว

รัฐบาลสมัคร สมชายก็ไม่ได้ล้มลงเพราะขบวนการม็อบอะไรทั้งสิ้น แต่ล้มเพราะอะไรคงทราบกันดี ซึ่งวิธีเหล่านี้ไม่อาจหน้าด้านเอามาใช้ซ้ำสองได้อีกต่อไปแล้ว

เพราะไม่เพียงแต่ประชาชนจะรู้ทันเท่านั้น ต่างชาติก็จ้องมองอยู่อย่างตาไม่กระพริบ

สำหรับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ "พวกเขา" แม้มิได้ประมาทเนื่องจากบทเรียนจากพี่ชาย แต่ก็ยังประเมินเธอต่ำไปอีกจนได้

"พวกเขา" ปรามาส ดูเบา ในความเป็นผู้หญิงของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ คิดว่าอย่างไรผู้หญิงก็คงเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ

พอเจอปัญหา เจอแรงกดดัน เจอการใส่ร้ายป้ายสี วิชามารเข้าก็คงจะถอดใจ ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ถอนสมอไปเอง

แต่พวกเขาประเมินผิด เป็นอย่างไรท่านที่ติดตามข่าวสารข้อมูลการเมืองคงจะทราบดีอยู่แล้วโดยมิต้องอธิบายให้มากความ

ถึงวันนี้ "พวกเขา" จึงออกอาการพล่าน และออกหมัดสะเปะ สะปะ ตั้งแต่หัวแถวยันท้ายขบวน

กระทู้ในราชดำเนินพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

ทุกวันนี้ "พวกเขา" กลัวยิ่งลักษณ์ มากกว่า ทักษิณ เพราะเธอได้ซึมซับ หลอมหลวมเอาประสบการณ์ ข้อผิดพลาดมาหลอมรวมตกผลึกอยู่ในตัวเธอ

และสิ่งสำคัญที่ทักษิณไม่มี แต่ยิ่งลักษณ์มี นั่นก็คือ

ความเข้มแข็ง อดทน อดกลั้น และธาตุทรหดของ "เพศแม่" ที่ธรรมชาติประทานให้แก่ผู้หญิงทุกคน

ไม่งั้นโบราณคงไม่บอกหรอก "ดาบก็แกว่ง เปลก็ไกว"!!!!


วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

48... ฉวยโอกาสตอนน้ำท่วม พยายามจะทำให้ "ปู" เละเหมือน "มาร์ค"

@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ "พนัส ทัศนียานนท์" อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ.โต้15คำถามของอธิการนาซี และ แถลงการณ์กลุ่มทนายความและนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน
@ ดูกันชัดๆๆๆๆๆ คำพิพากษาศาลฯยกฟ้อง ยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน19ก.ย.2549 แล้วผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง
@ 61> เปิดคำวินิจฉัยผู้พิพากษาเสียงส่วนน้อย ปฏิเสธอำนาจคณะรัฐประหาร!!!!!
@ 01 คุณปูครับ...ปรับเปลี่ยนงาน ปชส.ของรัฐบาลและ ศปภ.ได้แล้ว
@ 68> นายกฯปูเฉียบขาด งัดม.31พ.ร.บ.ป้องกันฯยึดอำนาจ กทม.
@ Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011
@ 77 ดูคลิปวีดีโอชัดๆ "นายกฯยิ่งลักษณ์" ยิ้มทั้งน้ำตา ไม่ท้อ(ค่ะ) ไม่ร้องไห้ ... ต้องเข้มแข็ง
@ 69> ระหว่าง นายกฯอภิสิทธิ์ กับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ใครควรถูกตำหนิมากกว่ากัน
@ หลังน้ำลด แนะนายกฯปูจัดให้หนัก "เคลียร์บิล" ยกเครื่อง
@ 03 สองเขื่อนยักษ์ ปริศนาลับ! กำจัดปู! บทพิสูจน์น้ำ"หมื่นล้านคิว" มาจากไหน? ใครวางงาน?




ฉวยโอกาสตอนน้ำท่วม พยายามจะทำให้ "ปู" เละเหมือน "มาร์ค"
By: ปลายอ้อกอแขม

ความเคียดแค้นชิงชัง ความอิจฉาริษยา ที่ครั้งหนึ่งคนของตน ที่ได้ถูกยกให้เป็นผู้นำประเทศ บริหารงานอยู่กว่า 2 ปี แต่ก็ประสบความล้มเหลวในการบริหารงานในทุกๆด้าน ได้รับแต่คำตำหนิติเตียน ประเทศเต็มไปด้วยคอรัปชั่นสูงสุดในประวัติศาสตร์...ในที่สุดก็ต้องยอมยุบสภา

เมื่อถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้ตัดสินให้กลับไปเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม แถมได้รับคะแนนนิยมลดลงกว่าแต่เดิม เพราะเห็นความอ่อนด้อยในการทำงานที่ไม่เป็นรูปธรรม เพียงแต่วันๆเอาแต่พูด พูด พูด...บริหารงานด้วยปาก

เมื่อเลือกตั้งแพ้ เหล่าผู้สนับสนุนรัฐบาลเดิม ต่างรู้สึกหดหู่ เศร้าสร้อยกับความผิดหวังที่ได้รับ แต่ไฟแค้น ไฟริษยาที่ยังสุมอยู่ในอกยังไม่จางหาย หรือรู้สึกสำนึกกับคำพิพากษาของประชาชนแต่อย่างใดไม่ กลับรอวันที่จะสะสางเอาคืน...อย่างไม่ลดละ

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ในวัย 40 เศษใกล้เคียงกันกับอดีตนายกฯคนก่อน เป็นสัญลักษณ์ของคนรุ่นใหม่อีกครั้ง กับพอดีจังหวะกับน้ำท่วมติดพันมา ยิ่งลักษณ์จึงใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มเทเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมตลอด 2 เดือนกว่า...แทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่น

มวลน้ำมหาศาลในรอบ 70 ปีนับแต่ปี 2485 ที่ทะลักล้นมาทุกทิศทาง หากเป็นน้ำธรรมชาติ คงจะแห้งหายไปนานแล้ว แต่น้ำท่วมครั้งนี้ กลายเป็นน้ำท่วมทางการเมือง ที่ฝ่ายหนึ่งพยายามแก้ อีกฝ่ายพยายามกัน เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของอีกฝ่าย...โดยใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกัน

การสอดประสานกันของฝ่ายตรงข้าม เป็นไปอย่างสอดคล้อง คนหนึ่งดึงให้อีกคนด่า คนหนึ่งถ่วงเพื่อให้อีกคนถาก คนหนึ่งเสิร์ฟเพื่อให้อีกคนตบ หวังทำลายความอดทนของ "นายกฯผู้หญิง" ให้ตบะแตก เสียสมาธิ แล้วหวังไกลไปถึงขนาดอยากให้มีการทำรัฐประหารในยามน้ำท่วมเช่นนี้...ประเภทข้าไม่ได้ เอ็งก็ต้องไม่ได้!

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้ความอดทน อดกลั้นที่มีมากกว่านายกผู้ชายหลายคน ไม่ตอบโต้ ไม่ต่อว่า ตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเททำงาน จากเช้าถึงค่ำ จากค่ำถึงดึก แทบไม่มีวันพักผ่อนกับภาระอันหนักอึ้งที่มีต่อประชาชนในชาติ...ลูกผู้หญิงตัวเล็กๆ

แน่นอน มหาอุทกภัยที่ใหญ่หลวงอย่างนี้ แม้จะเก่งกาจเพียงใดก็ตาม แต่การสู้กับภัยธรรมชาติ ก็ย่อมมีข้อบกพร่องบ้างเป็นธรรมดา ประกอบกับความไม่เป็นเอกภาพของเฟืองจักรหลายตัวในขบวนการขับเคลื่อน สั่งอย่างทำอย่าง หรือสั่งแล้วไม่ทำ คอยยื้อ คอยถ่วง คอยดึงคอยเตะตัดขา...เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง

ในยามน้ำท่วม ฝ่ายตรงข้าม พยายามปูดข่าวโน้น ข่าวนี้ หรือแม้แต่พยายามสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเพื่อหวังผลให้มากดดันรัฐบาลอย่างไม่ลดละ มีกลุ่มที่คอยเยาะเย้ย ถากถาง วิจารณ์อย่างไม่มีเหตุผล...ทั้งนี้ คือความริษยาชิงชัง

ฝ่ายตรงข้าม พยายามทุกวิถีทางที่จะสร้างภาพยิ่งลักษณ์ให้ "เละเทะ" เทียบเท่ากับนายกฯคนก่อนให้ได้ โดยใช้โอกาสและจังหวะน้ำท่วมมาเป็นสาเหตุ พยายามลดทอนความเชื่อถือศรัทธาของยิ่งลักษณ์ต่อประชาชนในทุกโอกาส เพื่อที่จะบอกว่าคนของเอ็ง ก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนของข้า...ทำนองนั้น!

และมั่นใจได้เลยว่า ในขณะที่ยิ่งลักษณ์กำลังภาวนาให้น้ำลดลง ก็มีอีกฝ่ายหนึ่งก็กำลังภาวนาว่า ขออย่าให้น้ำลดขอให้ท่วมขังอยู่นานแสนนาน เพื่อให้ประชาชนได้เดือดร้อนกันอย่างทั่วถึง จะได้เป็นข้ออ้างเพื่อไปทำร้ายยิ่งลักษณ์...ในโอกาสต่อไป

ยังนึกภาพไม่ออกว่า ถ้าวันนี้ นายกฯไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ แต่เป็นอีกคนหนึ่ง น้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้ จะทำอย่างไร ประชาชนจะเดือดร้อนหนักหนาสาหัสกว่านี้แค่ไหน เพราะถ้าย้อนดูการแก้ปัญหานี้ที่ผ่านมาในปริมาณน้ำท่วมปกติธรรมดา...ประชาชนยังโวยกันทั้งเมือง

น้ำผ่านมา ไม่วันนี้ พรุ่งนี้ก็คงต้องผ่านไป แต่ภาพนายกฯหญิง ที่ทุ่มเทแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ จะต้องถูกจดจำไปอีกนาน และจะกลับมาเป็นแรงสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เราขอให้กำลังใจ "ลูกผู้หญิงผู้ยิ่งใหญ่"คนหนึ่ง...ที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร!!!


คนใต้ชื่นชมการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของคุณยิ่งลักษณ์
นสพ.ไทยรัฐ 25ต.ค.2554 คอลัมน์ อ็อด เทอร์โบ ตอบสารพันปัญหา

เรียน คุณอ็อด เทอร์โบ ที่นับถือ

ผมขอชื่นชมนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยในการทำงานครับ ผมไม่นึกเลยว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะมีความอดทน อดกลั้น เข็มแข็ง เก็บอารมณ์ได้ดีกว่าผู้ชายอกสามศอกเสียอีก เพราะน้ำท่วมครั้งนี้ยิ่งใหญ่และรุนแรงมาก ขนาดรองนายกฯยังน้ำตาแตกแต่นายกฯยิ่งลักษณ์ยังเก็บอาการได้และนิ่งมาก

ตอนเริ่มเข้าสู่การเมืองมีการลงพื้นที่หาเสียง นายกฯยิ่งลักษณ์วางตัวนิ่งไม่ตอบโต้ใคร ผมก็นึกว่านิ่งเพื่อหาคะแนน แต่มาถึงวันนี้มีเหตุการณ์ภัยพิบัติอย่างรุนแรงและกว้างขวาง ยากที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะรับได้ทั้งๆที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ผิดคาดครับ วันเวลายิ่งทำให้มีความเด็ดเดี่ยวขึงขันกับการทำหน้าที่ และที่สำคัญไม่กลัวปัญหา จะเห็นได้ว่านายกฯยิ่งลักษณ์ไม่รอรับปัญหาอยู่กับที่ หนำซ้ำยังเดินหน้าเข้าหาปัญหาเพื่อหาทางออก ถ้านายกฯยิ่งลักษณ์ยังคงเส้นคงวาและวันเวลาสร้างสมประสบการณ์ คงยากจะหาคู่แข็งขัน ที่สำคัญอาจจะเป็นพิมพ์เดียวกับพี่ชายก็น่าจะไม่ผิด แต่ผิดอยู่จุดเดียวคือนายกฯยิ่งลักษณ์ปากไม่ไวและไม่โต้ตอบใคร นี่แหละจุดแข็ง

อีกประการหนึ่ง นายกฯยิ่งลักษณ์ออกงานสังคมน้อยมาก ไม่ค่อยเห็นข่าวเลยเช่นงานเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่ง หรืองานที่สังคมไฮโซเขาไปกัน ซึ่งผู้หญิงเขาชอบไปกัน ไม่เห็นภาพนายกฯยิ่งลักษณ์แบบนั้น สิ่งที่เห็นภาพนายกฯยิ่งลักษณ์คือประชุม ประชุม และประชุมครับ

ความจริงผมไม่ได้ลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยและไม่ได้เลือกนายกฯยิ่งลักษณ์ แต่ผมเลือกพรรคเก่าแก่มาโดยตลอด แต่มาถึงวันนี้ผมก็ไม่ผิดหวังครับที่ได้นายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เพราะทุกอย่างเริ่มปรากฏชัดว่าไม่ใช้ปากทำงาน ถึงแม้จะอ่อนประสบการณ์ แต่มีความพยายาม ไม่ย่อท้อต่อปัญหา ที่สำคัญนายกฯยิ่งลักษณ์สุขุมมากครับ ทำได้ ทำไม่ได้ ไม่มีใครรู้ แต่ที่สำคัญทำแล้วค่อยพูด นับว่าเป็นกิริยาที่น่าศึกษาของคนรุ่นใหม่ครับ

ผมขอเอาใจช่วยครับท่านนายกฯหญิงของไทย ปรากฏการณ์นี้คงมีนักการเมืองรุ่นโบราณหวั่นไหวบ้างแล้วหล่ะ การใช้สำนวนโวหารดีแต่พูดคงจะใช้ไม่ได้แล้วสำหรับการเมืองไทยในอนาคต

จาก...คนใต้


ข่าวลึก แกนนำสภาอุตฯ และทหารเผด็จการวางแผนกักตุนสินค้าหวังก่อจลาจลหลังน้ำลด
By: Bugbunny

ข่าวลึกจากนายทหารนิยมประชาธิปไตยและนักธุรกิจชั้นนำที่ทราบเรื่องแจ้งมาว่า เมื่อคืนวันที่ 27 และเช้าวันที่ 28 ที่ผ่านมา มีการประชุมร่วมระหว่างแกนนำหลายคนของสภาอุตสาหกรรม และกลุ่มนายทหารจำนวนหนึ่งในสภากลาโหมที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ วางแผนการล้มรัฐบาลหลังจากน้ำลด โดยจะดำเนินการดังนี้

1. เตรียมกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และสินค้าวัสดุก่อสร้างฯลฯ ไม่ให้ออกสู่ท้องตลาด และขึ้นราคาสินค้าทุกอย่าง เพื่อให้ประชาชนลำบากมากที่สุด

2. เตรียมจัดทีมสร้างสถานการณ์จลาจลแย่งอาหารและสินค้าในหลายพื้นที่ เพื่อให้รัฐบาลมีปัญหาว่าควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองไม่ได้

3. จากนั้นจะมีขบวนการพิเศษตั้งรัฐบาลที่พวกตนต้องการขึ้นมา อาจจะใช้วิธีใดก็ได้ แม้แต่วิธีการนอกรัฐธรรมนูญ

ศึกษาแล้วข่าวนี้มีความเป็นไปได้สูง โดยขอให้สังเกตความพยายามสร้างข่าวของ TPBS (ASTV2) NationTV และสื่อเครือข่ายอำมาตย์ต่างๆ ที่พยายามเน้นความยากลำบากของประชาชน การขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มในหมู่ผู้ประสบภัย พยายามดิสเครดิตรัฐบาลในเรื่องช่วยเหลือด้านของแจกผู้ประสบภัย

เรื่องนี้ชาวจิตอาสาที่ไปร่วมงานที่ดอนเมืองทุกคนรู้ดีว่า มีการแจกของอย่างเต็มที่และทั่วถึงมาก นอกจากไม่กี่รายที่อยู่ไกลหรือฝ่ายช่วยเหลือไม่ทราบแหล่งที่ติดอยู่เท่านั้น และเมื่อพบก็ออกไปแจกทันที ไม่ว่าจะห่างไกลขนาดไหน

นี่ยังรวมไปถึงการรีบลนลานออกมาพยายามไม่ยอมให้รัฐบาลนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคหรือน้ำดื่มจากต่างประเทศของพวกอุตสาหกรที่เป็นแกนนำ สอท. และผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่อีกด้วย

By: murdog อาศัยอำนาจนายกฯ พ.ร.บ.วิบัติภัย ประกาศยกเว้นภาษีการนำเข้าสินค้าอุปโภค บริโภคเลยครับ

By: yuthing ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ต้องกล้า ปรับ กล้าฟัน พวกข้าราชการฝ่ายตรงข้าม เอาวิกฤติเป็นโอกาสนี่แหละครับ โดยเฉพาะตัว ผบ.ต่างๆเหล่านี้ต้องหาทาง "เชือด" ให้ดูเป็นตัวอย่าง พวกสื่อหมาๆ ก็ให้สรรพากร ไปเรียกดูภาษีของพวกสปอนเซอร์ ของพวกสื่อเหล่านี้หน่อยสิครับ

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

47... ทักษิณห่วงใยประชาชน ร่วมบริจาคเรือช่วยน้ำท่วม

@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ "พนัส ทัศนียานนท์" อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ.โต้15คำถามของอธิการนาซี และ แถลงการณ์กลุ่มทนายความและนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน
@ ดูกันชัดๆๆๆๆๆ คำพิพากษาศาลฯยกฟ้อง ยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน19ก.ย.2549 แล้วผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง
@ 61> เปิดคำวินิจฉัยผู้พิพากษาเสียงส่วนน้อย ปฏิเสธอำนาจคณะรัฐประหาร!!!!!
@ 01 คุณปูครับ...ปรับเปลี่ยนงาน ปชส.ของรัฐบาลและ ศปภ.ได้แล้ว
@ 68> นายกฯปูเฉียบขาด งัดม.31พ.ร.บ.ป้องกันฯยึดอำนาจ กทม.
@ 02 ไอ้ชาติห-มาตัวไหนใส่ร้ายนายกฯปู มานี่มาดูให้เต็มตา...






ทักษิณห่วงใยประชาชน ร่วมบริจาคเรือช่วยน้ำท่วม

ทักษิณ ลั่น! ต้องหาเงินแสนล้าน แก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการ เผยรัฐบาลมีแหล่งทุนอยู่แล้ว ไม่ต้องกู้ พร้อมกันนี้ ยังได้บริจาคเรือมอบให้คนเสื้อแดงอีกด้วย

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกี่ยวกับการฟื้นฟูวิกฤติน้ำท่วมว่า ต้องหาเงินให้ได้อย่างน้อย 1 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลด แต่ไม่จำเป็นต้องกู้เงิน เนื่องจากรัฐบาลมีแหล่งทุนเตรียมจัดหาไว้แล้ว ซึ่งก็ถึงเวลาที่ต้องแก้ไขปัญหาน้ำอย่างบูรณาการกันจริงจังเสียที และต้องทำอย่างรวดเร็วด้วย

พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงต่อว่า จะต้องนำแหล่งทุนที่รัฐบาลมีอยู่มาผ่อนส่งสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและน้ำแล้ง และเมื่อพิจารณาอย่างหยาบๆแล้วต้องใช้เงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่านิดเดียว ถ้าคิดว่าเสียหายขนาดนี้ทุกปี และสามารถผ่อนเป็นสินค้าเกษตรได้กับประเทศที่ต้องการซื้อสินค้าเกษตร ซึ่งอาจอยากมารับงานนี้ก็เอาเงินมาลงอย่างเช่นประเทศจีน เนื่องจากจีนมีเงินสดเยอะ ถ้าเราเป็นลูกหนี้เราก็เป็นลูกหนี้ที่น่าเชื่อถือ และจีนก็อยากจะให้เราเป็นลูกหนี้ที่ชำระโดยสินค้าเกษตร ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลอาจจะต้องทำงานหนักหน่อยในเรื่องติดต่อสื่อสาร (จีทูจี) กับจีน

อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาน้ำท่วมที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังได้บริจาคเรือช่วยน้ำท่วม โดยด้านหนึ่งเขียนข้อความว่า "จากใจคนไกล ที่ห่วงใยประชาชน" และอีกด้านเขียนว่า "พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งนายวิสา คัญทัพ แกนนำคนเสื้อแดงเป็นตัวแทนมอบให้แก่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย


ยอดบริจาคช่วยน้ำท่วมเครือญาตินายกฯปู กลุ่มธุรกิจชินฯ ควักกระเป๋าช่วยอื้อ...!!

วันนี้(14ต.ค.54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการบริจาคสิ่งของช่วยเหลือน้ำท่วม มีที่น่าสนใจ อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา และ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย บริจาค 10 ล้านบาท พร้อมเรืออ่างพลาสติก รวมมูลค่า 2.7 แสนบาท นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสหฟาร์มบริจาคอาหารประเภทเนื้อไก่ บริษัทสหวิริยา สตีลอินดัสตรี จำกัด มหาชน มอบเรือเหล็กนวัตกรรม 100 ลำ มูลค่า 1 ล้านบาท ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กทม.กลุ่มเพื่อน ด.ช.ศุภเสกขข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บริจาค 77,310 บาท เอไอเอส. และไทยคม มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพิ่มอีก 30 ล้านบาท และยังมีบริษัทสิงค์เทล พันธมิตรทางธุรกิจของ เอไอเอส. ร่วมมอบเงินอีก 2 ล้านบาท และมอบเรือ 43 ลำ ถุงยังชีพ เสื้อผ้า แก่ผู้ประสบภัย และติดตั้งไวไฟที่ศูนย์ราชการอพยพของสาธารณสุข ศาลากลาง พระนครศรีอยุธยา รวมแล้ว เอไอเอส. บริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมแล้ว 70 ล้านบาท


สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เข้าสู่ช่วงไฮไลต์
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7626 ข่าวสดรายวัน

น้ำเหนือก้อนมหึมาจู่โจมฝ่าด่านนครสวรรค์ เคลื่อนขบวนทะลุทะลวงผ่านชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี เข้าพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี

สร้างความเสียหายตามรายทางให้กับบ้านเรือนประชาชน พื้นที่เศรษฐกิจ โรงงานอุตสาหกรรมเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท

ก่อนทะลักเข้าโอบล้อมกรุงเทพฯ ด้วยปริมาณน้ำกว่า 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ในจังหวะ"ดาบสอง"น้ำทะเลหนุนสูงไปจนถึงวันที่ 18 ต.ค. ทั้งยังต้องรอลุ้นต่อถึง"ดาบสาม"กับปริมาณน้ำฝนที่ถล่มลงมาไม่หยุดหย่อน

น้ำเหนือ น้ำหนุน น้ำฝน ทั้ง 3 อย่างนี้คือเงื่อนไขสำคัญที่มาบรรจบกันโดยมิได้นัดหมาย ทำให้กรุงเทพฯ ยังหนีไม่พ้นภาวะลูกผีลูกคน ต้องลุ้นระทึกกันชนิดนาทีต่อนาที

แต่กระนั้นก็ตาม ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า โอกาสที่ กทม.จะรอดพ้นไปได้มีค่อนข้างมาก

ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง รวม 61 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 280 ราย เดือดร้อนเกิน 2.4 ล้านครัวเรือน หรือเกือบ 8.3 ล้านคน

ด้วยตัวเลขที่ปรากฏจึงไม่แปลกหากน้ำท่วมครั้งนี้จะได้รับการจดบันทึกให้เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งสาหัสสากรรจ์ที่สุดในรอบ 50 ปี

ซัดกระหน่ำ"รัฐบาลยิ่งลักษณ์"ที่มีอายุประสบการณ์บริหารประเทศแค่เดือนเศษจนโซซัดโซเซในช่วงแรก

แต่ก็เป็นอะไรที่"ตั้งหลักได้เร็ว"กับการตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมเป็น"พ่องาน"ในฐานะผอ.ศูนย์ฯ

ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ก็สามารถรีดฟอร์ม"ผู้นำ"ออกมาได้ทันท่วงทียามบ้านเมืองเกิดวิกฤต ขนาดอดีตนายกฯบรรหาร ศิลปอาชา ยังกล่าวชื่นชม

แถมออกตัวให้ด้วยว่าปัญหาตอนนี้ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหน หรือต่อให้มี 10 รัฐบาลก็รับมือกับปริมาณน้ำขนาดนี้ไม่ไหว

นอกเหนือจากภาพการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยขึ้นเป็น"วาระแห่งชาติ"

ระดมกำลังทุกภาคส่วนทั้งภาคการเมือง ภาครัฐ ภาคเอกชน ทหาร ตำรวจ และภาคประชาชน เข้าร่วมวงหารือในที่ประชุม ศปภ.

และจากที่เคยฮือฮากลายเป็นภาพเห็นกันจนชินตา คือ นายกฯยิ่งลักษณ์ ควงคู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ออกตรวจสถานการณ์พื้นที่ประสบภัยรายวัน

ไม่ว่าขึ้นรถ ลงเรือ ขี่เฮลิคอปเตอร์ เห็นนายกฯยิ่งลักษณ์ที่ไหน เป็นต้องเห็นพล.อ.ประยุทธ์ที่นั่น

ผลพลอยได้จากการที่ผู้นำรัฐบาลกับผู้นำกองทัพเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้กับวิกฤตน้ำท่วม ทำให้บรรยากาศความตึงเครียดทางการเมืองที่เป็นมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามา เริ่มคลายตัวลง

ล่าสุดรัฐบาลด้วยความร่วมมือของหน่วยงานทุกกระทรวง ทบวง กรม ยังคิดค้นผลักดันมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อแบ่งเบาภาระให้ประชาชนผู้ประสบภัย

ทั้งการขอผู้ประกอบการช่วยตรึงราคาน้ำมันไว้ก่อน การผ่อนผันชำระค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน พักชำระหนี้โดยไม่คิดดอกเบี้ยในส่วนของผู้เช่าซื้อบ้านกับการเคหะ รวม 3 เดือน

กระทรวงการคลังสั่งให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ หาแนวทางหยุดพักชำระหนี้ให้ผู้ประสบภัยจนกว่าน้ำจะแห้ง ควบคู่กับการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน และเป็นทุนหมุนเวียนในการทำอาชีพใหม่

ขณะที่กรมสรรพากรออกมาตรการภาษี ให้ผู้บริจาคเงินช่วยน้ำท่วมนำไปหักลดหย่อนภาษีเพิ่มเป็น 1.5 เท่า

ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมเงินชดเชยอีกครอบครัวละ 5,000 บาท และชดเชยพื้นที่การเกษตรอีกไร่ละ 2,222 บาทที่รัฐบาลทยอยจ่ายไปบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตามมีการมองว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของรัฐบาล แต่โจทย์ที่ยากจริงๆ สำหรับคณะผู้บริหารประเทศภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่สถานการณ์ภายหลังน้ำลดมากกว่า

ยังไม่มีการประเมินแน่ชัดว่ารัฐบาลต้องใช้เม็ดเงินจำนวนเท่าใดในการฟื้นฟูความเสียหายหลังภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่นี้

แต่เบื้องต้นรัฐบาลได้เตรียมตัวเลขเบื้องต้นไว้ที่จำนวน 80,000 ล้านบาท ซึ่งจะได้มาจากการหั่นงบลงทุนของทุกกระทรวงลง 10 เปอร์เซ็นต์

กระนั้นก็ตามฉากสำคัญยังเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชิงเปิดประเด็นข้ามฟากมาจากดูไบ ถึงมาตรการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำท่วม

เป้าหมายให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมทั้งบ้านเรือน โบราณสถาน วัด โรงเรียน พื้นที่เกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม

เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ประเทศโดยเร็ว

การดำเนินการตรงนี้รัฐบาลจำเป็นต้องหาเงินให้ได้อย่างน้อย 1 แสนล้านบาท ซึ่งได้เตรียมจัดหาแหล่งทุนไว้แล้ว

ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวต้องทำหลายอย่างเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งไปพร้อมกัน ทั้งโครงการแก้มลิง เขื่อนกักเก็บน้ำ และเขื่อนกั้นน้ำทะเลป้องกันไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ

ส่วนจะสร้างอะไรไว้ตรงไหน รวมถึงการตัดเส้นทางเดินของน้ำใหม่ รัฐบาลต้องนำภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงน้ำท่วมมาศึกษาให้ละเอียด

เบ็ดเสร็จคาดว่าต้องใช้เงินงบประมาณอีกไม่ต่ำกว่า 400,000 ล้านบาท ถึงจะเป็นเงินจำนวนมากแต่ก็คุ้มค่าหากเปรียบเทียบจากตัวเลขความเสียหายทุกปีโดยเฉพาะปีนี้

สำหรับที่มาของแหล่งเงิน พ.ต.ท.ทักษิณชี้ช่องให้ไปกู้จากประเทศจีน แล้วจ่ายคืนเป็นสินค้าเกษตร นอกจากนี้ยังช่วยเจรจาดึงนักลงทุนต่างชาติเพื่อเข้ามาลงทุนในไทยอีกทาง อธิบายส่งต่อให้รัฐบาลเพื่อไทยรับไปปฏิบัติ

พ.ต.ท.ทักษิณฉวยโอกาสตอนกระแสสังคมเรียกร้องหามาตรการป้องกันน้ำท่วมระยะยาว ที่กำลังเป็นประเด็นมาแรงแซงโครงการประชานิยมอื่นๆที่รัฐบาลเองก็ถูกหาว่า"ดีแต่โม้"

โชว์มันสมองระดับเวิลด์คลาส กลบข้อครหา"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"เสียสนิท

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

46... ก๊อก ๆ ๆ รมต.ที่ดูแลสื่อของรัฐ ทำอะไรอยู่ ?????

@ Click...ถ้ากลัวเด็กติดgame ก็ไปถามคนป่าแอฟริกัน หรือว่า พวกเด็กๆใน อูกันดา รวันดา นะครับ
026 โตไปไม่โกง???
@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ "พนัส ทัศนียานนท์" อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ.โต้15คำถามของอธิการนาซี และ แถลงการณ์กลุ่มทนายความและนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน
@ ดูกันชัดๆๆๆๆๆ คำพิพากษาศาลฯยกฟ้อง ยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน19ก.ย.2549 แล้วผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง
@ 61> เปิดคำวินิจฉัยผู้พิพากษาเสียงส่วนน้อย ปฏิเสธอำนาจคณะรัฐประหาร!!!!!





นักเรียนโรงเรียนบ้านสันกำแพง จ.เชียงใหม่ เคยได้รับแจกคอมพิวเตอร์พกพาจากองค์กรการกุศล เมื่อ 3 ปีก่อนตั้งแต่อยู่ชั้น ป.1 ปัจจุบันอยู่ชั้น ป.3 นักเรียนเหล่านี้ ได้ใช้งานทำการบ้าน ส่งคุณครูด้วยคอมพิวเตอร์พกพาอย่างคล่องแคล้ว ส่วนครูผู้ดูแลมองว่า ประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดกับเด็กอย่างแท้จริง อยู่ที่ครูผู้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และการออกแบบ กิจกรรมการเรียนการสอนด้วยคอมพิวเตอร์พกพานี้

แต่ยังไงเด็กๆก็ยังต้องพัฒนากล้ามเนื้อ มือ ตา ซึ่งต้องอาศัยการลงมือปฏิบัติจริง เช่น การวาดภาพ การเขียนหนังสือ เพราะระบบประสาทและร่างกายมนุษย์กับการพัฒนาสมองจะเติบโตสัมพันธ์กัน Tablet PC ก็คือเครื่องมือที่ช่วยเสริมการเรียนรู้ ที่เด็กไทยมีโอกาสที่จะได้รู้จักนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ตั้งแต่เล็กๆ เพื่ออนาคตจะได้รู้จักเอาผลิตผลทางเทคโนโลยีมาพัฒนาตัวเองต่อไป

นายกฯปูเยี่ยมเยือน บรูไน 10 กันยายน 2554





ก๊อก ๆ ๆ รมต.ที่ดูแลสื่อของรัฐ ทำอะไรอยู่ ?????
By: AnnieHappy

หน้าที่ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ดูแลสื่อของรัฐ คือ

- ไปดูว่ามีช่องทางใดบ้าง (ทั้งจากเครื่องมือที่เรามีอยู่จากสื่อของรัฐและการแสวงหาความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆ) ที่จะช่วยรัฐบาล ในการสื่อสารเรื่องนโยบาย กับประชาชน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระคุณปู

- ไปดูว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่ต้องทำเร่งด่วน เรื่องนโยบาย เรื่องเฉพาะหน้า แล้วจะสื่อสารกับประชาชนด้วยวิธีใด เช่น รายการโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต กิจกรรมสัมมนา อภิปราย อีเวนต์ต่างๆ (ไปดูว่าแผนยุทธศาสตร์มีอะไรและอยากไ้ด้อะไร อยากเน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ)

- ไปดูว่าใคร เป็นใคร ในสื่อของรัฐ ต้องวางคนให้ถูกกับงาน และต้องเป็นคนที่ไว้วางใจให้รับนโยบายไปทำได้

- ถ้าไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ให้ขอความช่วยเหลือคนอื่นๆ เข้ามาช่วยงาน เช่น คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ ให้มาช่วยดูช่อง 11 คุณโอปอ ก็รู้เรื่องการทำรายการทีวี มีพวกเราหลายคนที่เก่งเรื่องจัดเสวนา ทำกิจกรรม ทำรายการวิทยุ

วันก่อน เห็นคุณกฤษณา ไปยืนเป็นวอลเปเปอร์ตามนายกฯ ซึ่งไม่ใช่ภารกิจของ รัฐมนตรีสำนักนายกฯ นั่ี่นเป็นภารกิจของโฆษกรัฐบาล คือว่าเห็นแล้วมันหงุดหงิด ในฐานะคนที่เลือกรัฐบาลนี้เข้ามา เขาก็หวังจะได้เห็นสื่อของรัฐ มีสีสัน มีการเปลี่ยนแปลง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แบบสมัยคุณสุรนันท์หรือคุณจักรภพ

แต่จนป่านนี้แล้ว รายการนายกฯพบประชาชน ก็ยังไม่มี รายการต่างๆ ส่วนใหญ่ก็เหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย น่าจะเป็นเพราะข้าราชการเขาเป็นนกรู้พยายามปรับตัว เสนอข่าวรัฐบาลตามหน้าที่ปกติของเขามากกว่า

อย่าหาว่าใจร้อนเลย แต่ว่ามันเงียบเชียบซะจนวังเวงใจ เงียบซะจนสงสัยว่า รมต.มีความรู้เรื่องงานประชาสัมพันธ์และงานสื่อแค่ไหน หรือว่า รมต.ชุดนี้ เป็นแค่ "ตัวสำรอง" อย่างที่เขาลือจริงๆ

อ้อ...แล้ว รมต.ก็ไม่มีหน้าที่ไปคุมสื่อเอกชนนะ เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงสื่อ แต่ว่าสื่อของรัฐเรากำหนดนโยบายได้อยู่แล้ว ส่วนสื่อเอกชน ก็ขอความร่วมมือ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี โดยเฉพาะจัดหางบประมาณ ให้เขาช่วย ปชส.นโยบายของรัฐ ด้วยการลงโฆษณา (เน้นสื่อส่งเสริมฝ่ายประชาิธิปไตย อิ อิ) มีงานเยอะแยะให้ทำ

ถ้ายังนึกไม่ออก ขอยกตัวอย่างรายการทีวี ว่าคนเขาอยากเห็นอะไร

1. อยากเห็นรายการที่คุยเรื่องรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ว่ามันมีปัญหาอย่างไร ทำไมจึงต้องแก้ไข คุยแบบมันส์ๆ หน่อยนะ แบบที่ชาวบ้านดูรู้็เรื่องและสนุกสนาน โดนใจประชาชน

2. อยากเห็นความคืบหน้าเรื่องนโยบายต่างๆ ว่าอะไรทำไปถึงไหน มีปัญหาอย่างไร เอามาบอกประชาชน

3. อยากเห็นรายการที่นำเสนอประเด็นที่ส่งเสริมประชาธิปไตย ข้อเท็จจริงที่สื่อกระแสหลักไม่เคยเผยแพร่ เช่น ชีวิตของคนเสื้อแดงที่ถูกจับ ครอบครัวของเขา ประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น เอาคนอย่าง อ.ยิ้ม ดร.พิชิต ดร.สุนัย คุณ บก.ลายจุด มาคุยให้ฟังบ้าง เรื่องราวที่คนเสื้อแดงฟังกันจนเบื่อแล้ว จะได้เผยแพร่ไปสู่คนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ

ไม่ต้องถึงกับเป็นรายการแบบความจริงวันนี้ หรอก เพราะนี่คือสื่อของรัฐ เราต้องทำให้คนทุกสีดูได้ เพื่อขยายฐานมวลชนออกไป เราไม่โจมตีผู้อื่น ไม่โจมตีคนที่คิดต่าง แต่นำเสนอข้อเท็จจริง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง จุดหมายคือความปรองดองของคนในชาติ (ซึ่งต้องช่วยกันทำความจริงให้ปรากฏก่อน)

ต้องแบ่งงานกันให้ชัดเจน ระหว่าง รมต.ที่ดูสื่อของรัฐ โฆษกรัฐบาล โฆษกพรรคเพื่อไทย และต้องทำงานสอดประสานกันตลอดเวลาด้วย แบบที่เขาเรียกว่า "พูดให้เป็นเสียงเดียวกัน"

คุยกันให้ดี ว่าช่วงนี้จะพูดนโยบายอะไร เรื่องอะไรควรทำก่อน ทำหลัง อะไรต้องทำไปพร้อมๆกัน เรื่องอะไร ต้องทำให้เป็นข่าวดัง ดังในเวลาไหน เรื่องอะไรควรทำเงียบๆ

เรื่องอย่างนี้ต้องยกให้อีกฝ่าย เขาเก่งจริงๆ เรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะการ set ประเด็นข่าว

เช่น "อย่าทำเพื่อคนๆเดียว" เขาพูดกันพร้อมเพรียงตั้งแต่ หน.พรรค ไปจนถึงลูกพรรค รวมไปถึงนักวิชาการ ผู้นำการเคลื่อนไหวในฝ่ายของเขา เพียงแต่น้ำหนักมันอ่อน ไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ มุกเลยแป๊ก

รมต.ดูแลสื่อ มีหน้าที่เอานโยบายไปเปิดประเด็นและขยายผลทางเครื่องมือที่มีอยู่ ไม่ใช่มาให้สัมภาษณ์สื่อเสียเอง เดี๋ยวจะไปแย่งหน้าที่โฆษกรัฐบาลเขา

แต่ถ้าจะให้สัมภาษณ์สื่้อ ก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนโยบายของตัวเองเท่านั้น

By: sopon ไม่รู้จะทำอะไรก็แจ้งราคาสินค้าให้ชาวบ้านรู้ก็ได้ เช่น เนื้อหมู ไก่ ไข่ น้ำมันพืช ค่ารถ ค่าน้ำมัน ขึ้นลงเท่าไหร่

By: thekunyay อย่างไรก็ต้องรอบคอบ อย่าลืมกรณีท่านจักรภพ เพ็ญแข เรื่องวารสารของกรมกร๊วก...

เตือนไม่ใช้ให้กลัว... แต่เตือนให้ระแวดระวัง...ไอเตี้ย หมาตื่น...มันบริหารมาเกือบสองปี คงมีคนที่จงรักภักดีกับมัน...

ฉะนั้น...ควรตัดไม้ข่มนามกันมั่ง...อะัไรทำได้ต้องรีบทำ และควรทำอย่างเร็วไว...ละเหี่ยใจจริงๆ

By: tohellwithhere ไม่รู้คนในพรรคเขาใจเย็น อดทนดู ยายกฤษณางุ่มง่าม หน่อมแหน่มอยู่ได้ไง

ไม่มีประสบการณ์ก็ปรึกษาคุณจิรายุสิ หรืออีกตั้งหลายคนที่เขาเก๋ากว่า

ดูตอน ปชป. ไอ้เตี้ยสาธิต มันมาปุบ มันแอคชั่น เปลี่ยนโลโก้ซะเลย (ไม่รู้เปลี่ยนทำบ้าอะไร) จัดรายการให้ไอ้เจิม Tnews ออกมาด่าพวกเราทุกวัน

คุณไม่กล้าก็ออกไปซะ คนกล้าๆ เก่งกว่าคุณจะได้เข้ามาทำ หรือโดนส้มหล่น ยังงงไม่หาย หรือไง

By: ติ๋มต้วมเตี้ยม วันนี้ดูข่าวช่อง3 น้ำท่วมอุตรดิตถ์ เห็นมาร์คออกลุยแจกทั้งซองทั้งถุง แต่ไม่มีข่าว สส.เพื่อไทย

เห็นน้ำไหลพลั่กๆ แล้วปวดหัวใจแทนชาวบ้าน แต่หาข่าวรัฐบาลไปทำงานไม่มี

ตอนนายกฯปูไปบรูไน สั่งให้ยายนี่ไปดูน้ำท่วม ที่ อุตรดิตถ์ บ้านเกิด

ไป ก็เงี๊ยบ เงียบ ไม่สมกับ รมต.ที่ดูแลสื่อของรัฐเลย

เฮ้อ...กรรม!!!

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

45... ผมว่าเราเสียสละให้คุณทักษิณมากพอแล้วนะครับ

46... ก๊อก ๆ ๆ รมต.ที่ดูแลสื่อของรัฐ ทำอะไรอยู่ ?????


นักเรียนโรงเรียนบ้านสันกำแพง จ.เชียงใหม่ เคยได้รับแจกคอมพิวเตอร์พกพาจากองค์กรการกุศล เมื่อ 3 ปีก่อนตั้งแต่อยู่ชั้น ป.1 ปัจจุบันอยู่ชั้น ป.3 นักเรียนเหล่านี้ ได้ใช้งานทำการบ้าน ส่งคุณครูด้วยคอมพิวเตอร์พกพาอย่างคล่องแคล้ว ส่วนครูผู้ดูแลมองว่า ประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดกับเด็กอย่างแท้จริง อยู่ที่ครูผู้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และการออกแบบ กิจกรรมการเรียนการสอนด้วยคอมพิวเตอร์พกพานี้

แต่ยังไงเด็กๆก็ยังต้องพัฒนากล้ามเนื้อ มือ ตา ซึ่งต้องอาศัยการลงมือปฏิบัติจริง เช่น การวาดภาพ การเขียนหนังสือ เพราะระบบประสาทและร่างกายมนุษย์กับการพัฒนาสมองจะเติบโตสัมพันธ์กัน Tablet PC ก็คือเครื่องมือที่ช่วยเสริมการเรียนรู้ ที่เด็กไทยมีโอกาสที่จะได้รู้จักนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ตั้งแต่เล็กๆ เพื่ออนาคตจะได้รู้จักเอาผลิตผลทางเทคโนโลยีมาพัฒนาตัวเองต่อไป

นายกฯปูเยี่ยมเยือน บรูไน 10 กันยายน 2554




นายกฯปู เป็นประธานในการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหารของ นศ.วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพเรือ และวิทยาลัยการทัพอากาศ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2554



ผมว่าเราเสียสละให้คุณทักษิณมากพอแล้วนะครับ
By: ทวดเอง

เรายอมให้คนส่วนน้อย ออกมาอ้างเรื่องบิดเบือนต่างๆ จนทำให้สังคมแตกแยก
ก็เพราะต้องการขับไล่คุณทักษิณออกจากการเป็นนายกฯ

เรายอมให้เกิดรัฐประหาร จนทำให้ประเทศต้องถอยหลังลงคลอง
ก็เพราะต้องการยึดอำนาจคุณทักษิณ

เรายอมรับรัฐธรรมนูญปี50 ที่มาจากการร่างของ คมช. จนทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ
ก็เพราะกลัวพรรคของคุณทักษิณเข้มแข็งเกินไป

เรายอมให้มีการยุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิ์การเมืองย้อนหลัง
ก็เพราะต้องการให้บุคคลากรเก่งๆของคุณทักษิณต้องหมดสิทธิ์เล่นการเมือง

เรายอมให้มีการยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน โดยไม่ห่วงกับความน่าเชื่อถือของประเทศ
ก็เพราะต้องการให้พรรคของคุณทักษิณไม่ได้เป็นรัฐบาล

เรายอมให้การสลายการชุมนุม จนมีผู้บาดเจ็บมากมาย และคนชีวิตอีก 2 คน
ก็เพราะไม่ต้องการพรรคของคุณทักษิณอยู่ในอำนาจต่อไป

เรายอมให้มีการใช้พจนานุกรมในการชี้มูลความผิด
ก็เพราะไม่ต้องการนายกฯที่มาจากพรรคของคุณทักษิณ

เรายอมให้มีการยุบพรรคพลังประชาชน โดยที่ยังสอบสวนพยานไม่ครบ
ก็เพราะต้องการรีบๆยุบพรรคของคุณทักษิณ

เรายอมให้มีการยุบพรรคการเมืองอีกหลายๆพรรค จนทำให้คนเก่งอีกมากมายต้องหยุดทำงานการเมือง
ก็เพราะต้องการให้พันธมิตรฯของคุณทักษิณเกรงกลัว จนไม่กล้าเข้าร่วมจัดรัฐบาล

เรายอมให้มีกลุ่มงูเห่า แล้วไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
ก็เพราะไม่ต้องการให้พรรคคุณทักษิณที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ได้เป็นรัฐบาลอีก

เรายอมให้คนๆหนึ่งที่ไม่เคยมีผลงานอะไรเป็นรูปธรรมตั้งแต่เล่นการเมืองมาเป็นนายกฯ
เพียงเพราะไม่อยากให้คนของคุณทักษิณมีอำนาจในการบริหาร

เรายอมให้มีการสังหารหมู่ในใจกลางกรุงเทพฯ
เพียงเพราะไม่อยากเลือกตั้งใหม่แล้วพ่ายแพ้ต่อพรรคของคุณทักษิณ

เรายอมเสียงบประมาณที่ยังเป็นความลับให้กับ ศอฉ. เพื่อใช้ใน พรก.ฉุกเฉิน
เพียงเพราะต้องการควบคุมดูแลคนที่ยังคงศรัทธาต่อคุณทักษิณ

เรายอมให้มีการจับกุมผู้ต้องหามากมายไปคุมขังโดยไม่มีความผิด
เพียงเพราะสงสัยว่าจะเป็นพวกที่สนับสนุนคุณทักษิณ

เรายอมจ่ายเงินให้กับ กอ.รมน.หลายพันล้าน เข้าไปควบคุมดูแลประชาชนคนเสื้อแดง
เพียงเพราะต้องการล้างสมองคนที่ฝักใฝ่คุณทักษิณ

เรายอมรับกับการใช้กฎหมายเมียซื้อที่ แต่ผัวกลับมีความผิด
เพียงเพราะต้องการให้คุณทักษิณต้องคดีติดคุก

เรายอมยึดทรัพย์คุณทักษิณไปสี่หมื่นล้านด้วยเหตุผลที่ยังกำกวม
เพียงเพราะต้องการตัดท่อน้ำเลี้ยงของคุณทักษิณ

เรายอมหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นการยกเลิก เอ็มโอยู 44 หรือ หมายจับตำรวจสากล
เพียงเพราะต้องการดีสเครดิตคุณทักษิณ

เรายอมให้รัฐบาลล้มเหลวในด้านบริหาร ทำให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง
เพียงเพราะกลัวว่าคุณทักษิณจะกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง

เรายอมยกเลิกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเขมร
เพียงเพราะเขมรแต่งตั้งคุณทักษิณเป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ

เราต้องเกิดความไม่เข้าใจกับเพื่อนบ้าน
เพียงเพราะต้องการ รมต.ต่างประเทศปากเสียไปไล่จับคุณทักษิณ

เรายอมตกเป็นตัวตลกในสายตานานาชาติ
เพียงเพราะต้องการให้คุณทักษิณหยุดการเคลื่อนไหว

เรายอมใช้สถาบันในการใส่ร้ายป้ายสีคุณทักษิณ
เพียงเพราะต้องการให้ประชาชนเกลียดชังคุณทักษิณ

เราพยายามต่อต้านนายกฯหญิงที่ได้คะแนนเสียงอย่างท่วมท้นจากประชาชน
เพียงเพราะเป็นน้องสาวคุณทักษิณ

เราพยายามจ้องจะล้ม รมต.ต่างประเทศคนใหม่ จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างสองประเทศ
เพียงเพราะญี่ปุ่นอนุญาตให้คุณทักษิณเข้าประเทศ

และสุดท้าย เพียงเพราะอยากจะเป็นรัฐบาลอีกรอบ
ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ทั้งพรรควุ่นวายอยู่แต่คุณทักษิณ โดยลืมถึงผลประโยชน์ของประชาชน

ผมจึงคิดว่า เราเสียสละให้กับคุณทักษิณมากมายเหลือเกินแล้วครับ ควรจะหยุดเรื่องที่เกี่ยวกับคุณทักษิณได้แล้วครับ อย่าให้ประเทศต้องหยุดเดินหน้า เพียงเพราะคุณทักษิณคนเดียว

ดังนั้นถ้าเราจะต้องเสียสละเพิ่มอีกเรื่องสองเรื่อง เพื่อให้ประเทศได้เดินหน้าต่อไป ผมว่าอภัยโทษได้ก็อภัยเถิดครับ หรือ จะต้องคืนเงินที่ยึดเขามาอย่างไม่เป็นธรรมก็คืนเขาไปเถิดครับ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศมันมากมายมหาศาลจนยากจะคำนวณกันเป็นตัวเลขแล้วครับ

หวังว่าเราคงไม่ต้องการให้ประเทศเป็นอย่างนี้ตลอดไปใช่ไหมครับ เว้นแต่พวกที่บอกว่าหวังดีต่อประเทศทั้งหลายกลัวว่าจะไม่มีโอกาสกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ถ้าคุณทักษิณได้รับความเป็นธรรมล่ะก้อ ป่วยการที่จะมาอ้างเรื่องต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศเป็นตัวตั้ง ฟังแล้วมันเหม็นขี้ฟันครับ