ขอตอบพลเอกประยุทธ โดยเฉพาะ?
By: โดย องค์ชายแสนซน นักรบประชาธิปไตย
เฟสบุ๊ค กลุ่มคนรักประชาธิปไตยและความยุติธรรม
13 เมษายน 2554
ผมได้ฟังท่านขอพร ให้พร อวยพร คนไทยเมื่อวานนี้แล้วผมสะอึก
ผมไม่รู้ว่า ท่านโมโหหิว เมาเหล้า หรือติดนิสัย"มั่วนิ่ม"มาจากใคร
ท่านถึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด่ากราด กล่าวหา พูดจา กวนส้นตรีน ประชาชนได้เข้าตากรรมการมากๆ
หลายข้อกล่าวหา หลายสิ่งที่ท่านพูด ออกมานั้น มันพูดออกมาจากดำเป็นขาว จากขาวเป็นดำ ได้ชนิดที่ว่า ผมไม่คิดว่า
คนที่เรียกตัวเองว่าชายชาติทหาร จะกล้าเอ่ยปากออกมาได้อย่างนี้
ท่านบอกว่า กองทัพไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ท่่านบอกว่าทหาร และกองทัพเคารพสิทธิของประชาชน ท่านบอกว่าประชาชน อีก 30 ล้าน ควรออกมา Take Action เพื่อปกป้องสถาบัน ท่านกล่าวหาว่าประชาชนต้องการความรุนแรง
ประชาชน ต้องรู้สิทธิ และหน้าที่ ฯลฯ
ผมอยากถามท่านว่า ไปอยู่ในรูไหนมาครับ
ตอนพวกท่านปล้น ประชาชน มาตั้งแต่ปี 2549
หรือว่าโรงเรียน จปร. ไม่เคยสอนวิชาประวัติศาสตร์ ประเทศทร้วยไว้ให้เหล่าทหารหาญได้สำนึก สำเหนียกไว้ว่า
คราใดก็ตามที่กองทัพออกมายึดอำนาจ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด บ้านเมืองจะิฉิบหายทุกครั้ง อยู่ที่ว่าจะฉิบหายแบบใด ฉิบหายมาก หรือฉิบหายน้อย ถ้าฉิบหายมากก็ 14 ตุลา 16 หรือ 6 ตุลา 19 ตลอดจนพฤษภาทมิฬ 35
จนล่าสุด 91 ศพ กลางเมือง
เกิดจากสถาบันกองทัพ ของพวกท่านออกมายึดอำนาจ ทั้งนั้น
ผมได้ยินขุนพล ในกองทัพออกมาบอกว่า สถาบันทหารนี้ สุดยอดกับประเทศไทยแล้ว กองทัพ ทำงานเพื่อชาติ เสียสละมาโดยตลอด
ฟังแล้วจะอ้วก อยากจะถามท่านว่า ทำนา เป็นมั้ย ทำธุรกิจหาเงินไปซื้ออาวุธเป็นมั้ย ท่านรู้มั้ยว่า ปวงชนชาวไทย จะซื้อน้ำปลามาคลุกข้าวกินขวดละ 10 บาท ยังต้องจ่าย Vat 7 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำไปจ่ายเงินเดือน จ่ายค่าอาวุธ จ่ายค่ารถประำจำตำแหน่ง จ่าย งบลับ ให้กองทัพไปเท่าไหร่
ขอถามอีกครั้ง เงินเดือนที่ท่านใช้ กันทั้งกองทัพ มันเป็นเงินจาก ตระกูลบรรพบุรุษ ของพวกท่าน หรือมาจากสมบัติส่วนตัวหรืออั้ยหอกหัก
มันมาจากไหน ถ้าไม่ใช่มาจากหยาดเหงื่อ ของประชาชน
ผมขี้เกียจจะย้อนว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ตรงไหน ทำไม คนไทยเรือนหมื่นเรือนแสน ที่เป็นเพียงเศษเสี้ยว ของคนเสื้อแดงทั้งประเทศมีจำนวนเท่าไหร่
ก็นี่แหละคนไทยส่วนใหญ่ ที่โดนปล้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แล้วก็ต้องมานั่งฟังผู้ชาย ใส่ชุดเขียว ตอแหล ว่้าไม่รู้ ไม่เกี่ยว ไม่ได้ทำ ซ้ำซาก ชนิดที่ตอแหลแบบสนิทใจ ไม่อายสื่อฯ ที่ถามเสียด้วย
โถ...เรื่้องที่แล้วก็แล้วไป ให้มารักกันเหมือนเดิม ผมนึกในใจสั้นๆ ง่ายๆ และคงนึกเหมือนกันคนเสื้อแดงทั่วไปว่า ค..ยมั้ยครับ ฆ่าคนกลางเมืองขนาดนี้
มีหน้ามาบอกว่าที่แล้วก็แล้วไป แบบนั้นมันระยำเกินไป ถ้าแม่ทัพนายกองที่นั่งหน้าสลอน ได้ดิบได้ดี จากกองศพ ประชาชน จะสบายแฮไม่รู้ไม่ชี้
งานนี้ ต้องมีบั้นปลาย ไปนอนในคุกกันบ้าง
อย่าอ้างนะว่ากฎหมายอนุญาต ไม่มีกฎหมายข้อไหน ให้ทหารเอาปืนไล่ยิงประชาชน ไม่ว่าจะเหตุใด ก็ตาม
ผมสมเพช ท่าน ผบ.ทบ. อิบอ๋าย ท่านกล้าพูดว่าทหารไม่ได้ฆ่าประชาชน ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่า สั่งยิงไปกี่ศพ สอดประสานกับการดิ้นเฮือกสุดท้าย จากม็อบคอสะพาน ที่ดิ้นทุรนทุรายเมื่อเห็นคนเสื้อแดงเรือนหมื่นเรือนแสน มารำลึกเหตุการณ์ครบ 1 ปีว่า
เป็นที่แน่ชัดว่า "ทหารไม่ได้นำอาวุธ ออกมาทำร้่ายประชาชน" (นี่ก็น่าจะได้ถ้วยตอแหลแห่งชาติ อีกตัวนึง)
น่าขำ น่าสมเพช น่าเวทนา กับผู้หลักผู้ใหญ่ ในบ้านนี้เมืองนี้ ที่พากันดาหน้ามาออกทีวีว่า ไม่เกี่ยว ไม่รู้ไม่เห็น ไม่เข้าข้างใคร (ฮา)
ทั้งๆที่ประชาชน แม่ม...มีทีวีทุกบ้าน หนังสือพิมพ์ส่งถึงทุกครัวเรือน อินเตอร์เน็ททะลวง เข้าไปถึงก้นครัว
ตาสี ตาสา ยายเมี้ยน ยายมา เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ข่าวจากทั้งไทยและเทศมาโดยตลอด ว่าอะไรมันคืออะไร แค่ที่เขาไม่พูด เพราะเขาอึ้งแดรกกกกก
จะบอกให้นะ ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งมัด ยิ่งแหล คนก็ยิ่งหมั่นไส้
ออกมาคุกเข่าสารภาพบาป กลางทีวี ยังจะดีกว่า คนไทยบางส่วนยังคงพอให้อภัย
ท่านประยุทธ ผู้แข็งกร้าว อย่าคิดว่าชะตากรรมบั้นปลายจะดี ผมดูๆแล้ว บางทีท่าน ต้องบวชเณร เข้าประเทศแบบจอมพลถนอมก็ได้ ใครจะไปรู้
จำไว้ อย่าดูถูกว่าประชาชนโง่ ไม่รู้อะไรเลย เพราะเขาก็แดกปลาเป็นอาหารเหมือนพวกท่านๆ นั่นแหละ
แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศ(สนนท.) หน้ากระทรวงกลาโหม
"ลดงบประมาณทหารอย่าใช้ภาษีเข่นฆ่าประชาชน"
วันนี้(12 เมษายน 2554)เวลาประมาณ 13.45 น. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)ได้อ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือ ต่อตัวแทนกระทรวงกลาโหม เพื่อชี้ให้เห็นว่าขณะที่ทั่วโลกจมอยู่กับความแร้นแค้น ความยากจน และเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงวิกฤติในด้านต่างๆ
รัฐบาลกับ ให้ความสนใจกับความทุกข์ยากเหล่านั้นเป็นเรื่องรองและตัดงบประมาณ ในการช่วยเหลือ เพื่อเพิ่มงบประมาณทางทหารซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับวิกฤติการณ์เหล่านี้ แต่อย่างใด สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอล์กโฮล์ม(Stockholm International Peace Research Institute) เปิดเผยว่างบประมาณทหารของโลกประจำปี 2553 รวมทั้งโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1 ล้าน 6 แสน 3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 50 ล้านล้านบาท
สำหรับประเทศไทยงบประมาณ กลาโหมประจำปี 2551 มีจำนวนถึง 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 39 ของโลก และสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย หรือเป็นรองเพียงแค่ประเทศเวียดนามหากคิดจากงบประมาณทหารต่อสัดส่วนของจีดี พี ที่สำคัญ คือ อาวุธเหล่านี้มาจากภาษีประชาชน แต่กลับถูกนำมาเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ในประเทศ
สนนท.จึงเรียก ร้องให้กองทัพอย่าเป็นเครื่องมือของเครือข่ายจารีตนิยม อำนาจนิยม เพื่อใช้ในการปราบปรามประชาชนควรเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงกับประชาชน โดยการคัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพต้องมาจากการสรรหาของสภาผู้แทน ราษฎรและคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่โดยคณะกรรมาธิการทหารของกองทัพ หรือบุคคลผู้มีบารมีนอกกองทัพ รวมถึงระบบการศึกษาของทหารต้องปลูกฝังให้เห็นคุณค่าในการพิทักษ์สิทธิ เสรีภาพของประชาชนไว้เป็นอันดับหนึ่ง และส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในกองทัพ
ตัดงบประมาณทหาร หยุดใช้ภาษีเข่นฆ่าประชาชน
ด้วยความสมานฉันท์
12 เมษายน 2554
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) และองค์กรสมาชิก