66... 1ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้คืนความสุขกับผมมากมายเลยครับ

@ คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555
@ ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ "ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"
@ ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง
@ สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...
@ นกแก้วตัวนั้น?
@ สามก๊กภาคพิสดาร (การเมือง)
@ แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น... ใครอ่านแล้วต่อมน้ำตาไม่แตก E-mail มารับรางวัล
@ "มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์
@ หัวเชือกวัวชน...
@ Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)
@ คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...
@ Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย
@ อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...
@ โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม
@ เจอของจริงแกล้งเฉไฉ เฮ้อ!! แถแบบนี้...ผมบายดีกว่า กลัวติดเชื้อ"โรคกลัวความจริง"
@ ไป ๆ มา ๆ ชักจะออกอาการ "สุนัขจนตรอก"
@ หนึ่งปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ทุกข์ประชาชนหรือฝ่ายค้าน"
@ อีกปีสองปี สถานการณ์เปลี่ยน..มึงซวยทั้งชีวิตแน่ๆ...
@ รมว.ศธ. ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓
@ ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่.........
@ ยืนยันทดสอบการระบายน้ำใน กทม. วันที่ 5 และ 7 กันยายน 2555
@ ไม่รีบเค้นออกมาจะเสียใจ...พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษของเด็กๆ
@ ข้อเท็จจริงเรื่องน้ำท่วมสุโขทัย จากคนสุโขทัยตัวจริง & มติชนสัมภาษณ์"หม่อมเต่านา"

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...


1ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้คืนความสุขกับผมมากมายเลยครับ
By: ทวดเอง

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลชุดนี้จึงเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างแท้จริง

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลที่มาจากประชาชน จึงได้ฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลของประชาชน ย่อมเข้าใจความต้องการของประชาชน

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลชุดนี้ มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างจริงจัง

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลชุดนี้ สามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างมากมาย

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลชุดนี้ ทำให้ประเทศไทยกลับขึ้นมายืนบนเวทีโลกได้อย่างสง่าผ่าเผย

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลชุดนี้ ได้พยายามอย่างยิ่งยวดในการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก รัฐบาลชุดนี้มีความพยายามในการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก ชาวนาเริ่มมีความหวัง ที่จะได้ลืมตาอ้าปากบ้าง ไม่ใช่รอขาดทุนอย่างสมัยก่อน

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก แรงงานไทยเริ่มมีความหวัง ไม่ว่าจะเป็นเดือนละหมื่นห้าหรือวันละสามร้อย

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก เด็กๆเริ่มมีโอกาสสัมผัสกับเทคโนโลยี่ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก คนชั้นกลางก็ได้รับการลดหย่อนภาษี เพื่อให้ได้มาทั้งบ้านหลังแรกหรือรถคันแรก

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก ภาคอุตสาหกรรมก็ได้รับอานิสงส์ไม่ว่าจากการผลิตหรือการส่งออก

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก เอสเอ็มอี อย่างผม ก็ได้อานิสงส์ไปด้วย แม้จะต้องเสียค่าแรงเพิ่มขึ้นก็ตาม

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก แม้ความขัดแย้งอย่างมีอยู่ แต่เป็นเพียงปฏิกิริยาของคนแพ้การเลือกตั้งเท่านั้น

1ปีที่ทำให้ผมมีความรู้สึก ความหวังเรื่องปรองดองเริ่มพอมองเห็นแสงสว่าง เมื่อเรามีนายกฯที่นุ่มนวล

นี่เป็นเวลาช่วง 1 ปีแค่นั้นเอง แต่ผมเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งกับนายกฯที่มาจากค่ายทหารได้อย่างชัดเจน มีผลงานเป็นรูปธรรมมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ข้อสำคัญ...

ผมต้องการนายกฯ ที่ตั้งใจทำงานให้กับผมอย่างขยันขันแข็ง

ผมต้องการนายกฯ ที่รู้จักแยกการเมืองกับการบริหารออกเป็นคนละส่วน

ผมต้องการนายกฯ ที่ไม่เสียเวลากับการต่อล้อต่อเถียง เพราะรังแต่จะเพิ่มความขัดแย้ง

ผมต้องการนายกฯ ที่วันๆมุ่งแต่บริหารประเทศมากกว่าเล่นการเมือง

ผมต้องการนายกฯ ที่คอยรับฟังทุกความคิดเห็น

ผมต้องการนายกฯ ที่เป็นนักบริหารมืออาชีพ

ผมต้องการนายกฯ ที่ไม่ใช่วันๆเอาแต่ดีใส่ตัว แล้วโยนชั่วให้คนอื่น

ผมต้องการนายกฯ ที่ไม่ใช่ค่อยซ้ำเติม เมื่ออีกฝ่ายกำลังเพลี่ยงพล้ำ

และในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ผมต้องการนายกฯ ที่รู้จักประนีประนอม

แล้วผมก็ได้เลือกนายกฯตามสเปคที่ผมต้องการทุกอย่าง แล้วจะไม่ให้ผมปลาบปลื้มใจได้อย่างไร

แม้ว่ายังมีปัญหาอีกมากมายยังไม่ได้รับการแก้ไข

แม้ว่ายังมีปัญหาอีกมากมายยังแก้ไขได้ไม่ทันใจ

แม้ว่ายังมีปัญหาอีกมากมายรอให้แก้ไข

แม้ว่ายังมีข้อบกพร่องอีกมากที่รอการปรับปรุง

และแม้มีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง ก็ไม่ใช่จะเป็นข้อผิดพลาดที่ใหญ่โตจนคนส่วนใหญ่รับไม่ได้

ดังนั้นผมจึงคิดว่า ตราบใดที่รัฐบาลภายใต้การนำของคุณยิ่งลักษณ์ ยังมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ ดัง1ปีที่ผ่านมา อีก 3 ปีต่อไปนี้ ผมคงได้เห็นอะไรต่อมิอะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน

อย่างนี้จะไม่ให้ผมมีความสุขกับ 1ปีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้อย่างไรกันครับ ก็ผมภูมิใจของผมนี่นา ใครจะภูมิใจพร้อมกับผม ผมก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ

ส่วนคนที่ไม่ยอมภูมิใจร่วมกับผม คงต้องอดใจรออีกสัก 3 ปีนะครับ แล้วค่อยมาตัดสินกันใหม่อย่างประเทศประชาธิปไตยเขาทำกัน อย่างนี้ดีกว่าไหมครับ


เหตุผลที่จะทำให้ ปชป.ต้องจ๋อยในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เชื่อว่า ปชป.คงยากที่จะเชือดได้ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. สารพัดโพลล์ระบุว่าผลงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้าตาประชาชน รัฐบาลสอบผ่าน

2. นายกฯยิ่งลักษณ์ได้รับโหวตจากสื่อดัง"ฟอร์บ"ให้เป็น 1 ในหญิงผู้ทรงอิทธิพลของโลก ทำให้นายกฯหญิงของไทยมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น

3. นายกฯยิ่งลักษณ์มีบุคลิกตรึงใจประชาชน คือไม่หยุมหยิมจุกจิกจู้จี้ ทั้งสวย และยิ้มสวย เมื่อยืนขึ้นอภิปรายตอบพอเป็นพิธี ก็เพียงพอต่อความไว้วางใจแล้ว (ไม่ต้องพูดมาก ตอบตามข้อมูลจริง ไม่ต้องมีความจริงสีดำ)

4. นายกฯยิ่งลักษณ์ผ่านการทำงานมา 1 ปี ข้อมูลอยู่ในสมองเพียบ การตอบไม่ต้องใช้วิธีอ่านสคริปท์ นอกจากข้อมูลที่เป็นตัวเลข ทำให้มีบุคลิกที่น่าเกรงขาม ไม่แน่ แค่ยืนขึ้น แล้วโปรยยิ้ม สส.ปชป.อาจถึงกับปัสสาวะเล็ดก็เป็นได้...อิอิ



วิธีทำให้ฟันขาวแบบง่ายๆ ไม่เปลืองกะตังค์
เครดิต : Yingsak Jonglertjesdawong



คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น
@ เชิญเข้าไปดูเว็บนี้...แล้วลากลงไปล่างสุดครับ


By ตัวดำแต่ใจแดง: ผมขอเพิ่มเติมประสบการณ์ที่ได้พบกับตัวเอง เพื่อมาบอกเป็นแนวทางกับเพื่อนๆ...คือที่จริงแล้วผมเอง "ไม่ใช่" คนที่จะเชื่ออะไรกับใครได้ง่ายๆหรอกนะครับ...ทุกอย่างที่ผมคิดและทำ จะต้องมีเหตุและผลมารองรับ ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่??? เสมอๆ...

น้ำหมักผลไม้หรือสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นสูตรจากป้าเช็ง หรือน้ำส้มสายชูหมักก็ตาม...เปรียบไปแล้ว...มันก็มี "สารที่เกิดจากการหมัก" เป็น "แอลกอฮอล์ธรรมชาติ" ที่มี "จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ปะปนอยู่ในนั้นด้วย" อย่างหนึ่ง...

ที่ว่าชนิดไหนมีประโยชน์ ชนิดไหนจะเป็นโทษ ผมเองไม่ได้จบมาทางชีวะวิทยาโดยตรง...แต่ก็ได้อ่านหนังสือเป็นความรู้ผ่านมาบ้างเล็กน้อยว่า ในธรรมชาติของเรา...ส่วนใหญ่จะเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและสิ่งมีชีวิต มากกว่าชนิดที่ให้โทษอยู่มากมายนัก...(เคยอ่านจากหนังสือการค้นพบจุลินทรีย์ EM ที่เป็นน้ำหมักชนิดหนึ่งที่เน้นในเรื่องการทำการเกษตร บำรุงดิน และทำความสะอาดในคอกของสัตว์เลี้ยง ซึ่งต่อมาได้พัฒนาช่วยในการเลี้ยงกุ้งและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น หมู และไก่เนื้อ ไปจนถึงไก่ไข่ แข็งแรง มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรค นี่เฉพาะ ที่พูดถึงจุลินทรีย์ EM นะครับ)

มาพูดถึง น้ำหมักผลไม้หรือสมุนไพรกันต่อ เราสามารถทำได้เอง หาวัตถุดิบและอุปกรณ์ทุกอย่างได้เอง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อกับป้าเช็งเลยก็ยังได้

สรุปว่าหาวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ตลาดใกล้ๆบ้าน ซึ่งก็หาได้ง่ายและมันก็ไม่ได้แพงอะไรนักหนาน่ะครับ นำมาหมัก จนได้อายุ อย่างน้อยที่จะเอามาใช้ได้เนี่ย ก็ซัก 4 เดือนขึ้นไป ก็ใช้ได้แล้วล่ะครับ...

เมื่อเราได้น้ำหมักมาแล้ว ถ้าเราเอามาใช้ "ดื่มกินแต่พอดี" ไม่มากจนเกินไป มันก็เหมือนกับเรา "กินไวน์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย" น้ำหมักผลไม้หรือสมุนไพรดังกล่าวก็จะเข้าไปช่วย "ปรับสภาพ" ความเป็นกรด เป็นด่างในร่างกาย ในเส้นเลือด เช่น ช่วยชะล้างไขมัน ที่เข้าไปเกาะอยู่ตามผนังของเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดสะอาดขึ้น เลือดเดินทางได้สะดวกขึ้น

เมื่อเลือดเดินทางได้สะดวกขึ้น เลือดก็นำสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไปเลี้ยงเซลล์ที่อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น นั่นก็จะเป็นผลที่ทำให้ร่างกายของคนเราแข็งแรง และไม่ล้มเจ็บ หรือว่าป่วยไข้ได้ง่ายๆนั่นเอง เป็นการใช้ "น้ำหมัก" ที่เป็นอาหารที่ได้จากธรรมชาติ เข้ามาเพื่อปรับสมดุลภายในของร่างกาย เพื่อให้เม็ดเลือดแดง ที่เปรียบไปแล้วก็เป็นทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง เกิดการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เมื่อเซลล์ต่างๆในร่างกาย ได้รับอาหารเต็มที่มากยิ่งขึ้น ร่างกายของเราก็สามารถผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเปรียบไปก็เสมือนกับ "นักรบ" ที่จะคอย "ต่อสู่กับเชื้อโรคต่างๆ" ที่เข้าสู่ร่างกาย ได้ดียิ่งขึ้น...ทำให้เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย สุขภาพของเราก็เลยแข็งแรงนั่นเองแหละครับ!!!

7พ.ค.55 นายกฯปู เดินตรวจสอบราคาสินค้าตลาดสดพิชัย เทศบาลปากเกร็ด จ.นนทบุรี

65... กะเทาะหัวใจ "ยิ่งลักษณ์" 1 ขวบปีกับบทบาทผู้นำประเทศ

@ คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555
@ ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ "ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"
@ ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง
@ สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...
@ นกแก้วตัวนั้น?
@ สามก๊กภาคพิสดาร (การเมือง)
@ แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น... ใครอ่านแล้วต่อมน้ำตาไม่แตก E-mail มารับรางวัล
@ "มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์
@ หัวเชือกวัวชน...
@ Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)
@ คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...
@ Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย
@ อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...
@ โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม
@ เจอของจริงแกล้งเฉไฉ เฮ้อ!! แถแบบนี้...ผมบายดีกว่า กลัวติดเชื้อ"โรคกลัวความจริง"
@ ไป ๆ มา ๆ ชักจะออกอาการ "สุนัขจนตรอก"
@ หนึ่งปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ทุกข์ประชาชนหรือฝ่ายค้าน"

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...

กะเทาะหัวใจ "ยิ่งลักษณ์" 1 ขวบปีกับบทบาทผู้นำประเทศ

อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...

การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า

64... นโยบายการจำนำข้าวเกวียนละหมื่นห้า ของนายกฯปู "นโยบายอัจฉริยะ อัดเม็ดเงินลงฐานรากกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค"

@ คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555
@ ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ "ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"
@ ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง
@ สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...
@ นกแก้วตัวนั้น?
@ สามก๊กภาคพิสดาร (การเมือง)
@ แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น... ใครอ่านแล้วต่อมน้ำตาไม่แตก E-mail มารับรางวัล
@ "มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์
@ หัวเชือกวัวชน...
@ Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)
@ คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...
@ Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย
@ อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...
@ โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม
@ เจอของจริงแกล้งเฉไฉ เฮ้อ!! แถแบบนี้...ผมบายดีกว่า กลัวติดเชื้อ"โรคกลัวความจริง"

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


นโยบายการจำนำข้าวเกวียนละหมื่นห้า ของนายกฯปู "นโยบายอัจฉริยะ อัดเม็ดเงินลงฐานรากกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค"
By: ลูกชาวนาไทย

เอาละครับ ผมพอจะมองออกแล้วว่า โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นอย่างไร

สรุปคือ นายกฯปู รับซื้อข้าวจากชาวนาต้นเกวียนละ 15,000 บาท และรับซื้อทุกข้าวทุกเม็ดจากชาวนา ทำให้ "นายกฯปู กลายเป็นพ่อค้ารับซื้อข้าวรายเดียวของประเทศ ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวยกระดับขึ้นไปทันทีเกวียนละ 15,000 บาท เงินก็จะถึงชาวนาที่มีข้าวขายทุกบาททุกสตางค์นั้นแหละ

ทีนี้เมื่อนายกฯปู เป็น "แม่ค้าข้าว" รายเดียว ซื้อข้าวทั้งหมดในประเทศไทย เมื่อซื้อมาได้ ก็ต้องขายไป หากนายกฯปูขายได้ราคามากกว่าหมื่นห้า ก็จะรวยเพียบ (คือรัฐบาลรวย) แต่หากขายได้ต่ำกว่าเกวียนละหมื่นห้า นายกฯปูก็จะขาดทุนบักโกรกแน่นอน

หากนายกฯปูรวย มีกิจการอื่นๆ มากมาย เช่น โรงงานผลิตรถยนต์ ผลิตอะไรจิปาถะ ขาดทุนจากการขายข้าวก็ไม่เป็นไร ถือว่าเอาเงินไปช่วยชาวนาก็แล้วกัน อาจขาดทุนสัก 50,000 ล้าน ก็ต้องหารายได้ทางอื่นไปชดเชย

ผมไม่มองกลไกตลาดข้าวแล้วนะครับ ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ ผมจะมองเศรษฐกิจมหาภาคเป็นหลัก

ผมสงสัยว่าคนที่กำหนดให้นายกฯปูซื้อข้าวเกวียนละหมื่นห้านี้ "ต้องมีเจตนาทางด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน"

เพราะใครก็รู้ว่า ตอนนี้กลุ่มอียูมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การส่งออกของไทยน่าจะมีปัญหา ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว

การที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้จะต้อง "เพิ่มอำนาจซื้อให้กับตลาดภายในประเทศ" หรืออำนาจซื้อภายในประเทศ มาชดเชยกับการส่งออกที่ชะลอตัวลงเท่านั้น

และจะกระตุ้นการบริโภคได้อย่างไร หากยุคอภิสิทธิ์คือ แจกเงินคนชั้นกลางหัวละ 2,000 บาท โดยไม่ต้องทำอะไรเลย

แต่นายกฯปูฉลาดกว่านั้นมาก แทนที่จะเพิ่มอำนาจซื้อให้คนชั้นกลาง ก็เพิ่มที่ "ฐานราก" เลยคือ "ชาวนา" ครับ กำหนดราคาข้าวเกวียนละ 15,000 บาท เท่ากับเป็นการ "อัดเม็ดเงินลงสู่ภาคชนบท" เป็นเงินนำแสนล้านบาท

ชาวนาเป็นพวกที่เก็บเงินไม่เป็นอยู่แล้ว ได้เงินมาเท่าไหร่ก็จะบริโภคไปทั้งหมด ดังนั้น ในปีหน้า การซื้อรถมอเตอร์ไซค์ รถปิ๊คอัพ และสินค้าอุปโภคบริโภคก็จะขยายตัวขึ้นอย่างมหาศาล "ตัวทวีคูณทางเศรษฐกิจก็จะมากขึ้น" เม็ดเงินก็จะหมุนไปตามแคมเปญ ยุคทักษิณก็จะกลับมา

ในที่สุดแล้วเศรษฐกิจในปีหน้าก็จะขยายตัวจากการบริโภคภายใน โครงการรถยนต์ต่างๆ ที่รัฐบาลอัดลงไป ก็จะช่วยเสริม

สรุปคือ คนที่คิดโครงการจำนำข้าว เกวียนละหมื่นห้า นี้ เขาคิดจากฐานเศรษฐศาสตร์มหภาคมาเป็นหลัก ยอมขาดทุนจากการจำนำข้าว แต่หากคิดว่านี่คือ "เม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ" มันก็เป็นเงินที่มากกว่าสูญเปล่าครับ

บางทีมันมีอะไรมากกว่าที่เราจะเถียงกันว่า "จำนำข้าว" ของนายกฯปู กับ การประกันรายได้ ของนายกฯมาร์ก อะไรดีกว่ากัน

ผมว่านโยบายนายกฯปูจะส่งผลกระทบต่อภาคชนบทอย่างมหาศาล เป็นการยกระดับรายได้ชาวนาอย่างแท้จริง

และที่สำคัญคือ การสร้างตลาดภายในประเทศ ขึ้นมาทดแทนตลาดโลกที่หดตัวลงครับ

@ อ่านกระทู้เกี่ยวเนื่องกัน แชมป์’กินไม่ได้...

By: X-Files

นี่เป็นหนึ่งในจิ๊กซอร์ด้านการบริหารในภาพของ Macro ครับ แต่ไม่ได้บอกแค่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว มันมีอีกหลายๆ ศาสตร์ซ่อนอยู่ตรงนี้ด้วย

มองภาพเศรษฐกิจก็เป็นอย่างที่ จขกท.อธิบาย ตลาดโลกแย่ การส่งออกก็จะแย่ตาม ถ้าไม่ทำให้เศรษฐกิจภายในขยายตัว คนจะตกงานเพิ่ม อาชญากรรมเพิ่ม ฯลฯ

ทีนี้ถ้าต้องการทำให้เศรษฐกิจภายในเพิ่มเราก็คิดแยกส่วน ระยะสั้นควรทำอะไร ระยะกลาง ระยะยาว เอาให้ได้ทุกๆ ภาคส่วนพร้อมๆ กันหมด พอเราทำข้างในเสร็จ ก็คิดว่าข้างนอกก็คงพอจะฟื้นฟูได้แล้ว เราก็บุกได้สบายๆ

ระยะสั้น : เราก็ทำหลายๆ อย่าง เช่น 300 บาท/ 15,000 บาท, โครงการรับจำนำข้าว, กองทุนหมู่บ้านต่างๆ เพื่อสร้างกำลังซื้อในประเทศ เมื่อประชาชนมีกำลังซื้อ ธุรกิจต่างๆในประเทศก็ไม่ซบเซา คนก็ยังมีงานทำมีรายได้ อาชญากรรมก็ลดลง ฯลฯ

ระยะกลาง : โครงการรถยนต์คันแรก โครงการบ้านหลังแรก นโยบายลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ฯลฯ ก็ต่อเนื่องมาจากแนวทางระยะสั้น เมื่อคาดว่าเราจะมีรายได้ เราก็ต้องมองหาปัจจัย 4-5-6 แนวทางนี้เราก็ต้องเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนโดยมีนโยบายกระตุ้นการลงทุน เมื่อเขามาลงทุนมันก็เป็นการสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจในประเทศเรา รวมทั้งประเทศของคู่ค้าด้วยอีกทาง

ระยะยาว : โครงการเมกะโปรเจคต่างๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ฯลฯ ก็จะเป็นหนึ่งในการกระตุ้นการลงทุนระยะยาว เป็นโครงการที่สร้างงานอย่างมหาศาล ตรงนี้เป็นแนวทางที่ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆ ก็น่าจะคิดทำ ถ้ามองถึง Macro View

ไม่ว่าจะระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ในปลายทางก็มีรัฐบาลคอยเก็บภาษีได้ทุกๆเม็ด ทุกๆการเปลี่ยนมือทางการเงินอยู่แล้วรับ รัฐบาลไม่มีทางจนหรอกครับ ถ้าบริหารเป็น

แนวคิดของเราก็คือ "การเมืองเรื่องเศรษฐกิจ" ล้วนๆ ครับ ถ้าเราทำให้ประชาชนทุกๆภาคส่วนร่ำรวยได้จากการบริหารของเรา นั่นคือเราก็จะมีอำนาจทางการเมืองตามมาด้วยเช่นเดียวกัน

By: ลูกชาวนาไทย

อันนี้เห็นด้วยครับ คือ ระยะยาวก็ต้องดันเรื่อง Mega Project อย่างเต็มที่ เพื่อให้การลงทุนทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในระยะยาว ต่อไป หากมันสอดรับกันพอดี และมีกำลังซื้อที่เพียงพอ เศรษฐกิจก็จะเติบโตต่อไปได้เป็นเวลานาน

By: Hank

ดูสถิติรายได้รัฐ มันก็ยืนยันความเห็นของคุณ ลูกชาวนาไทยกับของคุณ X-Files นะ

ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เคยเก็บได้เดือนละสี่ห้าหมื่นล้านและยอดเก็บแต่ละเดือนค่อนข้างคงที่ แต่ปีนี้เริ่มต้นก็ห้าหมื่นกว่าและเพิ่มขึ้นทุกเดือน ตอนนี้ไปห้าหมื่นเจ็ดแล้ว ถ้าคิดย้อนกลับไปเป็นยอดขายแต่ละเดือนนี่ เท่ากับเพิ่มจากปีก่อนเดือนละแสนล้านเลยนะ

คนกินเงินเดือนมีรายได้มากขึ้น (ยืนยันด้วยยอดการเก็บภาษีเงินได้บุคคล) ชาวนาได้เงินมากขึ้น ทุกคนก็ต้องใช้จ่าย เงินที่ใช้ไปก็จะทวีคูณค่าด้วยการหมุนเวียนในตลาดอยู่หลายรอบ ตามที่คุณลูกชาวนาไทยว่านั่นแหละ ผลมันก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก รัฐก็ค่อยเก็บคืนเอาที่ภาษีไปเรื่อยๆนั่นแหละ

By: ลูกชาวนาไทย

ชาวนาก็ได้ตามที่มีข้าวไป "จำนำ" นั่นแหละครับ คือ มีสิบเกวียน ก็ 10 x 15,000 บาท ก็ได้ไปแสนห้าหมื่นบาทนั่นแหละครับ

หากจะมีการทุจริต ก็คือ มี "ข้าวลม" ไปจำนำนั่นแหละครับ อันนี้ก็ต้องระวังให้ดี

ดังนั้น เม็ดเงินก็ต้องถึงชาวนาแน่นอนอยู่แล้ว

และไม่ต้องกลัวว่าข้าวจะราคาต่ำกว่า 15,000 บาท เพราะรัฐบาลรับจำนำที่ 15,000 บาท

ทุกเมล็ด นะครับ ไม่ใช่มีโควต้า

ชาวนาคนไหนยอมให้เขาหลอกรับจำนวน หมื่นสาม ก็ต้องโทษตัวเองที่โง่ละครับ

สิ่งที่ต้องระวังในโครงการนี้คือ "ข้าวลม"

By: ฮันนี่บอย

กิตติรัตน์ รับ มีทุจริตจำนำข้าว ระดับเจ้าหน้าที่... นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายโจมตีปัญหาทุจริตในการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า การทุจริตที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดจากในส่วนของภาคปฏิบัติ เพราะในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ โดยขอให้ประชาชนที่พบเห็น แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการได้ทันที

ทั้งนี้ยืนยันว่า การดำเนินการยังเป็นไปตามแผนงานทุกประการ ทั้งเรื่องปริมาณข้าวที่เข้าร่วมโครงการวงเงินในการรับจำนำข้าว รวมไปถึงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีอะไรต้องห่วง แม้การระบายข้าวของรัฐบาลอาจทำให้มีผลขาดทุนได้บ้าง โดยมองว่า มีผลขาดทุนน้อยกว่าโครงการประกันรายได้เกษตรกร ของรัฐบาลที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซึ่งมีผลขาดทุนมากกว่า 50,000 ล้านบาท ในการประกันรายได้ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ราคาข้าวของเกษตรกรมีราคาถูกเกินควร

นายกิตติรัตน์ ยังได้ยืนยันว่า โครงการการรับจำนำข้าวเปลือกนั้น จะช่วยผลักดันราคาข้าวให้เป็นไปตามกลไกตลาด และมีราคาสูงขึ้น และเชื่อว่า จะสามารถทำให้ราคาข้าวขยับขึ้นมาจากกลไกในเรื่องของการประกันรายได้ได้ ซึ่งเห็นชัดว่า มีการกระเตื้องของราคาขึ้นมาได้จริง

By: ลูกชาวนาไทย

ผมกำลังคุยเรื่อง ผลทางเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ ที่มองภาพรวม ไม่ใช่แต่เรื่องโครงการจำนำข้าวนะครับ

ทุจริตระดับเจ้าหน้าที่ ก็ต้องสอบสวนนะครับคุณฮันนี่บอย อันนั้นไม่เกี่ยวกับนโยบาย แต่เป็นกลไกการปฏิบัติของผู้ปฎิบัติ ก็ต้องหามาตรการควบคุม และลงโทษคนทุจริต

เรื่องการปฏิบัติ ก็ตองตรวจสอบซิครับ เอาหลักการก่อนส่วนการบริหารให้เป็นไปตามนโยบายก็ต้องตรวจสอบควบคุม

อันที่จริงโครงการมันเชื่อมโยงกับบัตรเครดิตเกษตรกร ที่ควบคุมโดยธนาคาร ธกส. ซึ่งการออกบัตรเครดิต ก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว และเงินมันส่งตรงถึงรายย่อย การโกงจากรายย่อยอาจมี แต่ไม่น่าจะมาก จำนวนข้าว กับจำนวนเงินที่ลงไปมันต้องสัมพันธ์กัน

By: KingNight

ในฐานะที่เป็นชาวนา และลูกชาวนา ผมเห็นด้วยนะ กับวิธีการที่รัฐใช้อยู่

เห็นพวกพ่อค้าส่งออกรายใหญ่ ออกมาโวย ผ่านองค์กรของตัวเอง มีทีวีบางช่อง นำเสนอภาพด้านลบ สร้างภาพให้รัฐบาลเสียหาย เสมือนจะพยายามล้มโคลงการนี้ให้ได้

ผมว่า เอกชนไม่ขาดทุนหรอก แต่กำไรที่มากโข ที่ค้ากำไรเกินควร จะลดลง

คนทำนา จนเอ๊า จนเอา ส่วนพ่อค้า กำไรบานเบ๊อะ

ทุกวันนี้ ก็มีพวกนายทุน เอารถไปรอซื้อถึงที่นาเลย กะจะเอามาตาก เพื่อลดความชื้น และขายในราคาที่มีกำไร

เอกชน ขายข้าวจนหมด ไม่พอกับลูกค้า เพราะสต๊อกส่วนหนึ่งอยู่กับรัฐ อยากจะซื้อ แต่รัฐให้มาประมูล ราคา ที่นำเสนอต่อรัฐ ต่ำมาก รัฐก็ขายเอง กำไรเยอะกว่า

คนพูดกันมากว่า ไทยจะเสียแชมป์ส่งออกข้าว การได้แชมป์ ไม่ใช่ความปรารถนาของชาวนา

ความปรารถนาที่แท้จริง คือการลืมตา อ้าปากได้

ได้แชมป์ ได้โล่ แต่ยังยากจน อดอยากอยู่ ก็ไม่ไหว ไม่อยากได้

By: ลูกชาวนาไทย

สำหรับผมแล้ว การขาดทุนสัก 50,000 ล้านบาท แล้วไปกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้เศรษฐกิจขยายตัว ส่งผลให้รัฐเก็บภาษีอื่นๆ ได้มากกว่า ห้าหมื่นล้าน มันก็คุ้มครับ เพราะขาดทุนจริงๆ ก็เป็นการ "ขาดทุนเงินบาท" คือ ขาดทุนเป็นเงินสกุลเงินบาท ซึ่งจริงๆแล้วรัฐบาลก็สามารถเพิ่มปริมาณเงินได้

แต่เมื่อไปขายต่างประเทศ เงินที่ได้มาเป็นเงินตราต่างประเทศ อาจไม่ได้ขาดทุนอะไรเท่าไหร่นัก

แต่อย่างน้อย โครงการนี้ ก็จะส่งเม็ดเงินลงไปถึงมือชาวนาที่มี "ข้าว" โดยตรง ซึ่งเม็ดเงินนั้น น่าจะมีความสัมพันธ์กับ วงเงินในบัตรเครดิตเกษตรกร ดังนั้น จริงๆ รัฐบาลอาจไม่ได้จ่ายเงินจากงบประมาณเลยก็ได้ เพราะ วงเงินในบัตรเครดิตนั้นเป็นวงเงินจากระบบธนาคาร

By: pae2020

คนที่มองเป็น เขาจะเข้าใจคำว่า"ขาดทุนคือกำไร"...

เขาสนใจกันที่เนื้อหาในการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งการจำนำข้าวมันได้สองเด้งสามเด้ง ผิดกับการประกันราคาข้าวที่รัฐจ่ายไปฟรีๆ มีผลเชิงมหภาคน้อยมาก...

By: KingNight

แต่บทสรุป ที่ตัวเองมีคือ พรรค ปชป.และผู้เสียประโยชน์จากนโยบายจำนำข้าวอันได้แก่พวกชนชั้น พ่อค้าหน้าเลือด กำลังเบี่ยงเบนประเด็น สร้างภาพ เพื่อล้มนโยบาย ที่มีผลกระทบต่อพวกเขา

ซึ่งพวกเขาเคยเอารัด เอาเปรียบคนอื่นมานาน มาเจอแบบนี้ ก็เกิดความไม่พอใจ

ใครทำเพื่อคนรวย ใครทำเพื่อคนจน อย่างแท้จริง ประชาชนผู้ทำนาเขาทราบดีครับ

By: ตึงเฒ่า

ปีนี้เป็นทองของชาวนาครับ ปรากฏการ จำนำอะไรจะได้มากมายขนาดนั้นจากเคยขายได้สมัยหัวถุงยาง 6,000-7,000 บาทปีนี้ทะลุไป 13,000-14,000 บาท มะลิ 18,000-19,000 บาท เงินตกมาถึงชาวนาเต็มๆๆครับปีนี้

ลูกหลานที่เคยมารับจ้างในกรุงกลับไปทำนากันหมดแล้วครับ เด็กจบ ม.6 สมัยมาร์คก็ได้กลับไปเรียนต่อกันแล้วระดับ ป.ตรี

ฐานชาวนาเป็นฐานใหญ่เมื่อชาวนาได้กำไรมีเงินมาใช้จ่าย รัฐก็เก็บภาษีมากขึ้น อย่างท่าน จขกท.ว่ามานั้นแหละ ไอ้ที่ว่าขาดทุนไป 50,000 ล้านไม่ขาดหรอก เมื่อชาวนามีการใช้จ่ายมากก็ไปเก็บภาษีตัวอื่นที่ชาวนาซื้อ ไม่เห็นขาดทุนตรงไหนเลย

By: samulai

ในฐานะที่เป็นคนที่ทำนาและมีประสบการณ์ตรงทั้งประกันรายได้ และัรับจำนำข้าว สรุปง่ายๆ ก็คือ

โครงการประกันรายได้รัฐบาลจ่ายเงินไปแล้ว ข้าวอยู่ที่พ่อค้า คนที่ได้ประโยชน์มากสุดก็คือพ่อค้า พ่อค้าไม่ต้องซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูง และก็ไม่ต้องส่งออกในราคาสูงเช่นกัน เรียกว่าซื้อง่ายขายคล่อง เพราะรัฐบาลเอาเงินไปเติมให้ชาวนาเฉยๆ เช่น ชาวนาขายข้าวให้พ่อค้าเกวียนละ 6,000 บาท รัฐบาลเติมให้อีก 800 บาทถ้าเป็นนาปัง 2,900 บาทถ้าเป็นนาปี สรุปก็คือชาวนาได้เศษเงินไปเพียงเล็กน้อย แต่พ่อค้าได้กำไรมหาศาล รัฐบาลมีแต่เสียอย่างเดียว เพราะจ่ายเงินไปแล้วไม่ได้คืน แทนที่จะนำเอางบประมาณส่วนนี้ไปใช้ในการพัฒนาประเทศด้านอื่น

ส่วนโครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลรับจำนำข้าวจากชาวนาสูงกว่าราคาข้าวที่รัฐบาลที่แล้วประกันรายได้มากข้าวธรรมดาเกวียนละ 15,000 บาท หอมมะลิ 20,000 บาท รัฐบาลจ่ายเงินไปแล้ว ข้าวอยู่ที่รัฐบาล ถ้ารัฐบาลหาตลาดใหม่ๆเพิ่ม บริหารจัดการดีๆ ก็อาจขายข้าวที่รับจำนำไว้ได้กำไร หรือจะขาดทุนก็เพียงเล็กน้อย โครงการรับจำนำข้าวทำให้พ่อค้าคนกลาง โรงสีเสียประโยชน์อย่างแน่นอน ชาวนาได้ประโยชน์สูงสุด รัฐบาลก็เสียงบประมาณไปกับโครงการรับจำนำข้าวไม่มากหรืออาจไม่สูญเสียเลย ถ้าขายข้าวได้กำไร

ส่วนเรื่องการทุจริตก็มีทั้งสองโครงการ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เรื่องการรับจำนำในอดีตอาจเคยมีการทุจริตจริง แต่ในปัจจุบัน กระทำได้ยาก เพราะต้องมีการลงทะเบียนตั้งแต่เริ่มทำนา ทำกี่ไร่ ที่ดินโฉนดเลขที่ เป็นผู้เช่าหรือเจ้าของ เจ้าหน้าที่จะประเมินว่าพื้นที่อำเภอนี้ได้ข้าวเฉลี่ยไร่ละเท่าไหร่ แล้วก็ให้โควตาจำนำตามพื้นที่ที่ทำนาจริง

ในเรื่องการประกันรายได้ ถ้าชาวนาคนใดไม่มีนาของตนเองต้องเช่านาเขา คนที่ได้ประโยชน์จากเงินที่รัฐบาลเติมให้จะเป็นเจ้าของนาตัวจริงแต่ไม่ได้ทำนาเอง ผู้เช่าจะไม่ได้เงินส่วนนี้เลย

By: KingNight

เงินมันจะตกอยู่ที่ชาวนามากกว่าพวกพ่อค้าผู้เอาเปรียบ เรื่องทุจริต ก็พวกพ่อค้านะแหละโลภมาก เห็นออกมาแฉกัน พวกนี้ต้องจัดการให้เด็ดขาด


By: sopon120

ตอนนี้ชาวนา ไม่เห็นออกมาโวยผิดกันกับตอนประกันราคา ก่อนที่ ไอ้ร้อยตรีเก๊ จะยุบสภา ชาวนาออกมาประท้วงทุกอาทิตย์ ทุกพื้นที่ พวกเพลี้ยอย่าง TDRI นักวิชาการสื่อเงียบหมด

สถานการณ์ข้าวตอนนี้ ประเทศผู้ขายเริ่มปรับราคาขึ้นมาเรื่อยๆ เนื่องจากภัยพิบัติในแหล่งผลิตที่สำคัญของโลกเสียหายอย่างจีน รัสเซีย อินเดีย เวียดนาม โดยเฉพาะ สหรัฐ ผลผลิตเสียหายหนักสุดในรอบ 56 ปี ในขณะที่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีเหนือ แอฟริกา มีความขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง

By: เมืองรถม้า

ประชาชนได้รับเงินเต็มๆ แค่ 10,000 บาท ประชาชนก็ดีใจแล้ว 10,000 บาทเอาไปทำอะไร?????

1. ค่าเล่าเรียนลูก
1.1 ลูกเอาไปทำอะไร
1.1.2 จ่ายค่าเดินทาง (มอเตอร์ไซค์รับจ้าง สองแถว) กระจายรายได้ไป 2 อาชีพแล้ว
1.1.3 จ่ายค่าอาหารกลางวัน ค่าน้ำดื่ม (แม่ค้าดีใจวันๆขายได้เยอะ เพราะเด็กมีกำลังซื้อ)
1.1.4 ซื้อสมุดปากกาหน้าร้านปากซอย ซื้อชุดใหม่ๆ ไม่ต้องใส่ของเก่าซ้ำๆอีกแล้ว
1.1.5 เติมเงินมือถือ 20 บาท ร้านป้าต้อย กลางซอย เอาไว้โทรยามจำเป็น

2. ซื้อกับข้าว ที่ตลาดนัด
2.1 แม่เอาเงินไปทำอะไร
2.1.1 ไปซื้อผัก ซื้อหมู ซื้อปลา กะปิ เกลือ น้ำปลา
2.1.2 ซื้อกับแกล้มให้สามีหน่อย ทำนามา แก้ปวดเมื่อยหน่อย

จากที่ยกตัวอย่างมานี้ ทำให้อาชีพหลายอาชีพ มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน ทำให้เศรษฐกิจ ท้องถิ่นดี มีเงินทุนหมุนเวียน ในท้องที่ อันนี้คือจุดสำคัญมากๆกว่าปัญหาของประเทศเสียอีก

ทำไมคนต่างจังหวัดถึง รัก และ ชอบ คุณทักษิณ ก็เพราะ นโยบาย ตรงนี้ของทักษิณ คือ ทำยังไงให้ให้คนมีเงินใช้จ่ายกันในท้องถิ่น เศรษฐกิจถึงจะอยู่ได้ ทุกอาชีพในท้องถิ่น มีรายได้ ให้ซื้อขายกัน (ไม่ใช่นั่งตบยุง แม้กระทั่งในตลาดสด ที่ต้องมาชั่งไข่ขาย)

เดี๋ยวนี้...ประชาชนไม่ได้เหนื่อยแล้วครับกับการทำนา เกี่ยวข้าว ไถนา ใช้เครื่องยนต์หมดแล้ว เกี่ยวมาสำเร็จ ใส่กระสอบเลย ไม่ต้องกลัวเรื่องแรงงานไม่พอ ไม่ได้ใช้แรงงานคนมากเหมือนแต่ก่อน

สนับสนุนนโยบายนี้เป็นอย่างยิ่ง มีแต่คนที่เสียผลประโยชน์ ที่ออกมาโวยวาย

ยังไม่เห็นชาวนาที่เป็นคนแรกที่ต้องรับกับนโยบายนี้ออกมาโวยวายซักคน...เฮ้อ!!

63... แชมป์’กินไม่ได้...

@ คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555
@ ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ "ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"
@ ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง
@ สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...
@ นกแก้วตัวนั้น?
@ สามก๊กภาคพิสดาร (การเมือง)
@ แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น... ใครอ่านแล้วต่อมน้ำตาไม่แตก E-mail มารับรางวัล
@ "มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์
@ หัวเชือกวัวชน...
@ Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


แชมป์’กินไม่ได้...
By: siamturakij.com

สมาคมชาวนาแฉพ่อค้าขาดทุนกำไร...

ใครก็อยากเป็นที่ 1 ทั่วโลกรู้จัก "นีล อาร์มสตรอง" ผู้เหยียบดวงจันทร์คนแรก แต่จะมีสักกี่คนรู้ว่าคนที่ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์คนที่ 2 ชื่ออะไร ที่ 1 จึงดีกว่าที่ 2

แต่! พระพุทธเจ้าตรัสว่า อนิจจัง ทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่แน่นอน ไม่มีใครเป็นที่ 1 ได้ตลอดกาล ถ้าไม่อยากเป็นที่ 2 ก็จงอย่าเป็นที่ 1 ถ้าอยากเป็นที่ 1 ก็ต้องทำใจถ้าจะเป็นที่ 2 บ้าง..ในบางเวลา เหมือนกรณีข้าวไทยที่กำลังถูกเมาธ์อย่างเมามันในเวลานี้ โดยแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือ ผู้ส่งออกข้าว อีกฝ่ายคือ รัฐบาล

ผู้ส่งออกบอกว่าไทยกำลังจะเสียแชมป์ส่งออกข้าวที่รักษามายาวนาน กว่า 30 ปี (ไทยส่งออกข้าวได้ประมาณ 8-9 ล้านตันต่อปี) เพราะโครงการรับจำนำที่ตั้งราคาสูงลิ่ว ข้าวขาวราคาตันละ 1.5 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิราคาตันละ 2.0 หมื่นบาท เป็นเหตุให้ ราคาข้าวไทยในต่างประเทศแพงกว่าคู่แข่งอย่างเวียดนามและอินเดีย

เมื่อขายแพงกว่า จึงขายได้น้อยกว่า ครึ่งปี 55 เพิ่งขายได้แค่ 3.6 ล้าน ตัน ทั้งที่ปีที่ผ่านมาช่วงเวลาเดียวกันนี้ ขายได้กว่า 4 ล้านตัน แถมคาดการณ์ว่าทั้งปี 55 ไทยคงจะขายข้าวได้ไม่เกิน 6.5 ล้านตัน น้อยกว่าเวียดนามที่น่าจะขายได้ 7 ล้านตัน และอินเดียที่น่าจะขายได้ 8 ล้านตัน ขณะที่รัฐบาลก็สวนกลับหมัดต่อหมัด มั่นใจทั้งปี 55 ไทยส่งออกข้าวได้ถึง 8.5 ล้านตันแน่นอน นั่นหมายความว่ายังรักษาแชมป์ไว้ได้ และจะไม่ยอมยกเลิกโครงการรับจำนำ เด็ดขาด

เห็นข้อถกเถียงนี้แล้วได้แต่ถอนใจ ทำไมไม่เถียงกันว่า ชาวนาไทยจะรวยขึ้นหรือไม่?????

ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ไทยเป็นแชมป์ส่งออก มันน่าภาคภูมิใจอะไรหนักหนา เมื่อชาวนาไทยยังจนที่สุดในโลก กะอีแค่จะมีบัตรเครดิตสักใบก็ถูกตราหน้าว่ามีเงินผ่อนคืนหรือ? จะถือ สมาร์ทโฟนสักเครื่องก็ถูกค่อนขอดว่าเอาปัญญาที่ไหนมาผ่อน? หากหาญกล้าไปซื้อรถเก๋งก็โดนครหาว่าอวดร่ำอวดรวย ภาพลักษณ์ชาวนาเป็นได้เพียงกระดูกสันหลังของชาติ ถูกกดขี่ให้ต่ำต้อยอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

ก็น่าแปลก!!! คนทำสวนส้ม สวนทุเรียน สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ รวยพุงกาง แต่คนทำนากลับจนลง ทั้งที่ข้าวเป็นอาหารหลักของมนุษย์ กินทุกวัน วันละ 3 เวลา

ทฤษฎีกลับด้านเช่นนี้..ใครผิด ไม่รู้? รัฐสนแต่ว่าเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะใช้โครงการประกันราคาหรือรับจำนำข้าว เป้าหมายเพียงแค่ซื้อใจชาวนา ถ้าชาวนา 5 ล้านคนพอใจ ก็เท่ากับว่าได้คะแนนเสียง 5 ล้านเสียง

ด้านผู้ส่งออกก็เน้น ซื้อถูก ขายแพง จนเคยตัว ถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวราคาตลาดโลกร่วงกราว ชาวนาต้องตัดใจขายตามราคาตลาดโลก แต่พอข้าวถูกปล่อยออกจากมือไปอยู่กับพ่อค้า ราคาตลาดโลกกลับพุ่งพรวด น่าเจ็บใจจริงๆ ชาวนาเลยตั้งคำถาม เป็นแชมป์ แล้วได้อะไร เป็นแชมป์แล้ว "อิ่ม" หรือเปล่า

30 ปีที่เป็นแชมป์ ยังหิว ยังเดือดร้อน ยังมีหนี้สินล้นตัว ถ้าเป็นแชมป์แล้วทำได้แค่นี้ อย่าเป็นแชมป์เลยดีกว่า..อายเขา หันไปมองเพื่อนอาเซียน นอกจากเวียดนามที่เป็นผู้ส่งออกตัวยงแล้ว พม่าก็เตรียมขับเคลื่อนการส่งออกเช่นเดียวกับกัมพูชาที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกให้มากขึ้น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ที่เคยเน้นการนำเข้า ก็หันมาส่งเสริมให้คนในประเทศปลูกข้าว เพื่อซื้อกินน้อยลง

ดูทิศทางแล้ว ข้าวจะขายได้ยากขึ้น เพราะผู้ซื้อเริ่มหันมาผลิตเอง ผู้ขายก็แข่งกันผลิตมากขึ้น ประเทศที่กล่าวมา รวมถึงอินเดียที่จะซิวแชมป์จากไทย ล้วนผลิตและขายข้าวคุณภาพต่ำถึงปานกลาง เจาะตลาดกลางลงล่าง

แล้วทำไมไทยจะต้องไล่แข่งกับประเทศเหล่านี้ หันมาผลิตข้าวชั้นดีราคาแพงขายไม่ดีกว่าหรือ หนุนชาวนาให้ใช้พันธุ์ข้าวดี ปุ๋ยดี (ชีวภาพ) เน้นนวัตกรรมเพิ่มผลผลิตต่อไร่ แล้วขายในตลาดระดับกลางขึ้นบน ขายน้อยแต่กำไรมาก ดีกว่าขายมากแต่ขาดทุน

หากแปรรูปได้เหมือนขนมปังก็ยิ่งเพิ่มมูลค่าได้อีกเป็นเท่าตัว

ถ้าเสียแชมป์แล้วข้าวไทยพัฒนา ได้ดีกว่าเดิม ชาวนารวยกว่าเดิม รู้แบบนี้? ยอมเสียแชมป์ตั้งนานแล้ว!!!

By ปลาไหลตัวพ่อ: ญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นแชมป์ในการส่งออกข้าว ข้าวก็ผลิตขายให้คนญี่ปุ่นด้วยกัน ชาวนาของเขา ลืมตาอ้าปากได้ครับ จริงๆแล้วระบบที่เอาเปรียบทั้งชาวนา ทั้งผู้บริโภค ก็คือ "คนกลาง" ครับ ถ้าคนกลาง โดนเตะออกไปจากวงจรซะ อะไรๆมันก็ดีขึ้น

By IRIS TWO: พวกทำนาบนหลังคนก็เงี้ย มันไปกดราคาข้าวที่รับซื้อจากชาวนา แต่เวลาส่งขาย ตปท. มันก็ไปแข่งตัดราคากัน กำไรแค่ 3-4 เหรียญ มันก็เอา แล้วแบบนี้ชาวนาจะลืมตาอ้าปากได้ไง ขอถามหน่อยเหอะ... พวกที่กำลังรวมหัวโจมตีเรื่องที่เราเสียแชมป์ส่งออกข้าวน่ะ เป็นแชมป์ส่งออกข้าวแต่ชาวนากลับยากจนลงๆ กับเสียแชมป์แต่ชาวนาขายข้าวได้ราคาดีกว่าน่ะ อันไหนมันดีกว่ากันฟะ ขอถามหน่อยเหอะ หุหุ

By กุ้งฝอย: ผมว่าประเด็นมันมาจากที่พ่อค้าหน้าเลือดไม่มีข้าวจะส่งออก เลยไปซื้อข้าวต่างประเทศส่งให้ลูกค้า กำไรเลยหดหายไป...(แทนที่จะขูดเลือดราคาได้จากชาวนาไทย) เลยออกมาโวยกันเป็นแก๊ง เพื่อให้รัฐขายข้าวในสต๊อกให้ราคาถูก โดยยกเอาแชมป์ขายข้าว และหลายๆเรื่องมาอ้าง พวกมันเล่นกันเป็นทีม...รัฐอย่ายอมครับ แชมป์ทางปริมาณมันไม่สำคัญนักหรอก ถ้าตราบใดเราขายข้าวแล้วได้เงินมามากกว่า และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวนาต้องได้อะไรบ้าง ไม่ใช่โดนขูดเลือดแบบที่เป็นมา และตลอดไป

By คนริมทุ่ง: แถวบ้านผมชาวนาขายข้าวได้ราคา เขาก็ดีใจมีเงินในกระเป๋า เขาไม่เคยสนใจว่าไทยจะได้แชมป์หรือไม่ได้แชมป์ กดราคาชาวนาให้ข้าวถูกๆแล้วส่งออกได้มากใครได้ประโยชน์??? บริษัทส่งออกรวยจนสะดือปลิ้น กดราคา เอาเปรียบชาวนามาชั่วนาตาปี ดูที่มูลค่าดีกว่า อย่าเอาปริมาณมาวัด ดูที่ใครได้ประโยชน์ ชาวนา หรือ นายทุนโรงสี ผู้ส่งออก

By NTCS: เห็นด้วยค่ะ แถบออสเตรเลีย เป็นเหมือนกัน ข้าวนำเข้าจากหลายชาติ เช่น เวียดนาม ไทย จีนฯ ข้าวหอมมะลิไทยยังครองใจต่างชาติค่ะ วันนี้ลองเชียร์ข้าวเวียดนามให้ลูกค้าฟิลิปปินส์ ถุง 20 กิโลกรัม ขายเพียง 34 ดอลลาร์ ราคาถูกกว่าของไทย 6 ดอลลาร์ แกส่ายหน้าบอกว่าไม่อาววว จะอาว ไทยจัสมิน

By นางฟ้านะยะ: นางฟ้าลองชิมข้าวมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะข้าวอเมริกา ข้าวออสเตรเลีย ข้าวแอฟริกา ข้าวอินเดีย และก็ข้าวเวียดนาม

บอกได้เลยว่าข้าวหอมมะลิไทยยังไงก็คุณภาพดีสุดๆ

ภัตตาคารเอเชียทั่วโลกระดับดีๆ ยังไงก็ต้องซื้อข้าวไทยเท่านั้น เพราะกับข้าวอร่อยแค่ไหน หากเสิร์ฟข้าวไม่ดี เป็นอันว่าร้านอาหารนั้นเสียชื่อ

ข้าวเวียดนามชั้นดีที่สุด ยังสู้ข้าวขาว 5% ของไทยไม่ได้เลย

ส่วนข้าวบาสมาติของอินเดียเมล็ดยาวก็จริง กลิ่นหอมแต่เป็นข้าวไม่มียาง กินแล้วแปลกๆ ไม่หนึบเหมือนข้าวไทย รสชาติสู้ไม่ได้เลย ถ้าเอามาทำข้าวผัดถึงจะเหมาะ

ที่งงก็คือ คนไทยทุกวันนี้กลับไปเชื่อแต่พ่อค้า ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าคุณภาพข้าวไทยกับข้าวเวียดนามนั้นต่างกันมากแค่ไหน แต่ขายราคาห่างกันนิดเดียว

เพราะราคาไม่แตกต่างกันนี่แหละ พ่อค้าส่งออกข้าวมันจึงขายได้กระฉูด ขายได้ง่าย เพราะลูกค้าไม่คิดว่าคุณภาพต่างกันขนาดนี้ แต่ราคากลับห่างกันไม่มาก

พอรัฐบาลตั้งเป้าจะอัพเกรดราคาข้าวไทย ซึ่งแรกๆต้องส่งผลกระทบอยู่บ้าง เพราะอาการช็อต แต่นานไปลูกค้าชั้นดีย่อมหวนกลับมาอยู่แล้ว

เอาง่ายๆ ทุกวันนี้ นางฟ้ากินข้าวเสาไห้ นางฟ้ายังไม่ชอบเลย เพราะมันกระด้างเกินไป ยังไงก็ต้องหอมมะลิเท่านั้น ข้าวหอมปทุมยังไม่ซื้อกินเลย ก็เพราะติดนิสัยกินข้าวชั้นดีไปแล้ว

ปัญหาข้าวไทยคือการปลอมปนมากกว่า ซึ่งก็พวกพ่อค้าข้าวตัวดีนั่นแหละที่ร่วมมือกับผู้ค้าข้าวต่างประเทศ จนข้าวไทยเสียชื่อ ปีที่แล้วเป็นข่าวดังมากในประเทศจีนเลยทีเดียว

คนที่ออกมาตำหนิรัฐบาลในเรื่องนี้ เพราะส่วนใหญ่เกลียดทักษิณ เลยพยายามจะเอาข่าวมาหาเรื่องมากกว่านะฮ้า

By kajokkub: ตลอดมาเมืองไทย คิดแต่จะนำเหรียญทองส่งข้าวออกเป็น ที่ 1 มาแจกชาวนาไปแขวนไว้หน้าเถียงนา ว่าประเทศไทย ส่งข้าวเป็นที่ 1 แต่ชาวนายังเป็นอาชีพที่จนอัตคัดที่สุด จนวันนี้... อยากถามว่า เอกชนไทย พ่อค้าไทย ส่งข้าวออกเพื่อทำสถิติเป็นที่หนึ่งให้คงอยู่ตลอดมา ชาวนาไทย ได้ที่หนึ่งด้วยไหม รวยเท่าคนส่งออกไหม เขาอยู่ดีกว่าเดิมไหม?????

By ดวงจันทร์: ชาวนาจะต้องมีความภูมิใจและมีความสุขในอาชีพที่ทำ และเขาควรจะได้ผลตอบแทนตามสมควรที่ควรจะได้รับ ถึงเวลาที่ต้องช่วยชาวนาอย่างจริงจังเสียที หยุดการเอาเปรียบที่ทำให้ชาวนาภูมิใจกับคำที่ว่า ชาวนามีบุญคุณปลูกข้าวให้เรากิน เป็นกระดูกสันหลังของชาติ กระดูกสันหลังที่ผุพังลงไปมากี่ 10 ปี ช่วยกันก่อนที่ชาวนาจะไม่มีเหลือปลูกข้าวให้เรากินเพราะเป็นอาชีพที่ยิ่งทำยิ่งจน

By Spfc: การจำนำนั้นถูกต้องแล้ว ราคาส่วนต่างจาก 15,000 ที่ให้ชาวนานั้นมาจากความชื้นไม่ได้คุณภาพตามเงื่อนไขของการรับจำนำ เงื่อนไขนี้เป็นที่เปิดเผยโดยทั่วไป ชาวนาทราบดี

โรงสีส่วนใหญ่ในยุคนี้มีเครื่องมือในการหาความชื้นได้รวดเร็วครับ ไม่ต้องทะเลาะกัน ดังนั้นนิสัยของโรงสีหรือเถ้าแก่นั้นสำคัญมาก จะเอาเปรียบหรือไม่

โรงสีนั้นมีหน้าที่รับจ้างสีข้าวแล้วนำส่งไปที่โกดังกลางที่รัฐบาลกำหนดเท่านั้นครับ ไม่ใช่มีหน้าที่รับซื้อ โรงสีรับข้าวเปลือกจากชาวนาแล้วจึงออกใบประทวนเพื่อไปขึ้นเงินกับ ธกส. ครับ

เรื่องทุจริตนั้น ถ้าจะทำมันต้องเป็นขบวนการ แล้วขึ้นกับ จนท. รัฐเสียส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักการเมือง เพราะฉะนั้น บางที่คนในนี้หากไม่ทราบในรายละเอียด พออ่านข่าวจาก นสพ.โจมตีก็จะเห็นคล้อยตามไปด้วยทั้งๆที่ไม่มีรายละเอียดในการทุจริต

อีกอย่างครับ อย่างที่บางท่านได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้แล้ว ประเด็นคือผู้ส่งออกทำนาบนหลังชาวนามานาน ตอนนี้รัฐบาลซื้อจนผู้ส่งออกหาข้าวในตลาดไม่ได้ ก็เลยออกข่าวโจมตีนโยบายรัฐ เพราะตอนนี้ข้าวให้ผู้ส่งออกไม่มีจริงๆ ก็อย่างที่นโยบายรัฐบาลคือดันราคาให้สูง เพราะฉะนั้นถ้าผู้ส่งออกต้องการข้าวก็ต้องไปซื้อข้าวจากชาวนาที่ในราคาเท่าเทียมกันกับที่รัฐจ่าย

อีกประเด็นที่ตอนนี้ถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องการระบายสต๊อก ก็รัฐบาลเขามีนโยบายซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐอยู่แล้ว ดังนั้นไม่เป็นที่น่าห่วงว่าจะระบายออกไม่ได้ แต่เขาต้องดูจังหวะในการปล่อยข้าวเพื่อไม่ให้ราคาข้าวในตลาดถูกกระทบ

ดังนั้นประเด็นหลักๆที่ถูกโจมตีในตอนนี้คือ ผู้ส่งออกหาข้าวในตลาดไม่ได้จึงไม่มีข้าวส่งให้ลูกค้า

By doctorve: จำนำถูกต้องแล้วครับ ข้าวส่วนใหญ่อยู่ในมือรัฐ ราคาชาวนาได้ตามราคารับจำนำหากได้คุณภาพตามกำหนด แม้จะถูกหัก ก็ยังได้ เกวียนละ หมื่นสามหมื่นสี่

เทียบกับตอนประกัน ชาวนาได้รับ 8-9 พัน ข้าวไปอยู่ในโรงสี เอาไปขายแพงทำกำไรอื้อ ชาวนาก็ได้แค่นั้น แถมรัฐจ่ายเงินป่าวๆเพิ่ม จ่ายแล้วจ่ายเลย ไม่ต้องคิดมาบริหารอะไร กลายเป็นต้องจ่ายค่าส่วนต่างปีละแสนล้าน

โครงการรับจำนำ หากรัฐบาลจัดการดี ขายข้าวได้ราคา เงินก็ไหลกลับเข้ามาเอง หรือหากขาดทุน ยังไงก็ไม่ถึงปี ละแสนล้าน

นี่คือความแตกต่าง ของ 2 โครงการ บางที่ โรงสีอยากได้ข้าวไปขายมาก ก็ต้องซื้อแพงกว่าราคาจำนำ แล้วใครได้ประโยชน์?????

By KingNight: พวกพ่อค้ารายใหญ่ที่ส่งออก ค้ากำไรเกินควร ขายข้าวไปจนหมด แต่จะมาประมูลข้าวในสต๊อคของรัฐ ในราคาที่ต่ำ รัฐก็ไม่ให้ เอาไปขายแบบ จี ทู จี กำไรดีกว่า ออเดอร์มาเพรียบ พ่อค้าตีรวน ไม่มีข้าวขาย เลยต้องหันมาใส่ร้ายรัฐบาล

By Picador: ทะลึ่งไปทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งที่รัฐบาลมีนโยบายจำนำข้าวออกมาแล้ว พอข้าวของคนอื่นหมด ก็มาตอแยรัฐบาล รัฐบาลอย่าไปยอม รัฐต้องรู้อยู่แล้วว่า demand ของโลกมีเท่าไหร่ และ supply ก็ขาดส่วนของไทยไม่ได้

ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเป็นแชมป์ในการส่งออกข้าว ขายของน้อยกว่าเดิมแต่ได้เงินมากต้องดีกว่าอยู่แล้ว ปีนี้อย่างไรขายหมดแน่ มีหลายประเทศที่ประสบภัยธรรมชาติ จะหวังว่าปีหน้าคงจะผลิตได้มาก นั้นไม่ได้ ทุกประเทศจะต้องสำรองอาหารไว้ (เขาเรียกอะไรไม่รู้)

ถึงแม้ปีนี้จะทำราคาได้ไม่สูงมาก ปีหน้ารับรองทุกประเทศไม่ยอมขายข้าวในราคาต่ำแน่นอน อย่างน้อยคอยเกาะราคาของไทยไว้ และถ้าผู้ส่งออกไปทำสัญญาล่วงหน้าในราคาถูก ก็เรื่องของมัน แล้วยอมเสี่ยงกับปัญหาที่จะซื้อข้าวไปส่งมอบไม่ได้

By unclechoi: เคยรู้มาว่า พวกญี่ปุ่นเวลาที่ผลผลิตไหนออกมามากๆ เค้าจะคัดส่วนที่คุณภาพดีคุณภาพเยี่ยมแบบคัดเกรดขายในราคาที่สูง ส่วนของที่คุณภาพระดับธรรมดาหรือตกเกรดนิดหน่อยจะเก็บเข้าห้องเย็นสต๊อกไว้ พอพ้นฤดูของผลผลิตนั้นผ่านไป ก็จะเอาของในสต๊อกที่คุณภาพชั้นธรรมดาออกมาขาย ซึ่งในช่วงเวลาที่ไม่มีของให้เลือกมาก ก็สามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าในช่วงที่ผลผลิตเต็มตลาดสบายๆ น่าจะลองมาปรับใช้กับการขายข้าวบ้านเราได้บ้างนะครับ

เคยดูสกู๊ปข่าวเรื่องพ่อค้าข้าวทางทีวี แล้วสงสัยนิดนึง คนปลูกข้าวไม่เป็น แค่มีเงิน รวมตัวกัน สามารถกำหนดชะตาชีวิตชาวนา ประเทศได้ นี่ยิ่งใหญ่มากนะครับ ก็อย่างว่ารวยแล้วแบ่ง ใช้เงินเป็น บวกกับเจอแต่รัฐบาลคิดไม่เป็น ซ้ำขี้เกียจ มานาน

ถ้ารัฐบาลนี้จะปฏิวัติการขายข้าวของประเทศนี้กันใหม่ก็ขอสนับสนุนครับ ก็แค่อยากให้อาชีพทำนา จูงใจให้คนรักอาชีพ รักแผ่นดิน ไม่เที่ยวขายที่ทิ้ง ไปขายแรงงาน รับจ้างเค้า ไม่มีคนสืบทอดแค่นั้นแหละ

@ อ่านกระทู้เกี่ยวเนื่องกัน นโยบายการจำนำข้าวเกวียนละหมื่นห้า ของนายกฯปู "นโยบายอัจฉริยะ อัดเม็ดเงินลงฐานรากกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค"