ช่วยกันเพิ่มช่องทาง ข้อมูล ข่าวสาร-สาระความรู้ ให้กับพี่น้องชาวแรงงานนอกระบบ
"รู้ลึก รู้ทัน รู้จริง รู้ก่อน...ไม่โดนเขาหลอกให้ช้ำใจ"
"รอโหลดซักกะเดี๋ยว..ตะเอง"


. . . สวัสดีครับ . . .
ยินดีต้อนรับทุกๆท่าน . . . Welcome to . . .
. . . แ ร ง ง า น น อ ก ร ะ บ บ . . . ร่วมด้วยช่วยกัน . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ

@ ปู้นนน...!!! คนเมืองใต้เจียงใหม่ของหมู่เฮาลงไปตางปู๊นนน..... @ 2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

75... อัลบั้ม 2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

74... จะทำอย่างไร? ถูกเลิกจ้าง..ลาออก..ว่างงาน..ชราภาพ55ปี,เกิน60ปี

@ ทำความเข้าใจก่อนวิจารณ์ "การลงทุน 2 ล้านล้าน" กับ รัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์
@ เขียนให้อ่าน..จากใจ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร
@ ทิ้งหนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร
@ อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ
@ เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...
@ คำแปล ปาฐกถาพิเศษ ปชต."นายกฯยิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย
@ จดหมายเปิดผนึก.. ส.ส.และ ส.ว.312 คน คัดค้านและไม่ยอมรับการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น

สนใจมั้ย..กฎหมายเงินเดือนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเดือนละ 2,000 บาท คลิปเริ่มนาที 38:15

จะทำอย่างไร? ถูกเลิกจ้าง..ลาออก..ว่างงาน..ชราภาพ55ปี,เกิน60ปี
By: คนการเมือง

"มนุษย์เงินเดือน" & "ประกันสังคม"

สิทธิประโยชน์จากประกันสังคม เมื่อออกจากงาน..

พนักงานบริษัทหรือที่เรียกกันอย่างคุ้นปากว่า "มนุษย์เงินเดือน" นั้น แน่นอนว่าเป็นกลุ่มคนที่คุ้นเคยกับคำว่า "ประกันสังคม" เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะเป็นหนึ่งในรายจ่ายสมทบที่เราต้องถูกหักจากเงินเดือน 5% หรือไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นการประกันตนโดยบังคับโดยเราจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการลดหย่อนภาษี การรักษาพยาบาล รวมถึงค่าชดเชยต่างๆ แต่ความจริงก็คือว่า คนเราส่วนใหญ่มักจะละเลยสิทธิประโยชน์เหล่านี้ ซึ่งเป็นการละเลยที่เกิดจาก "ความไม่รู้" ว่าเราจะได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งเหล่านี้บ้าง

สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมที่ควรรู้เมื่อออกจากงาน มี 2 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เมื่อถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงาน

มีเงื่อนไขในการรับสิทธิ์คือ เราจะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนออกจากงาน โดยต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วันหลังลาออกจากงาน และต้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพจากกองทุนประกันสังคม

โดยสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานมีดังนี้

กรณีถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนปีละไม่เกิน 180 วันในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง โดยจะคิดจากค่าจ้างตามจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท

กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง ได้รับเงินทดแทนปีละไม่เกิน 90 วันในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง โดยจะคิดจากค่าจ้างตามจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท

โดยปกติแล้ว เมื่อเราสมัครเข้าประกันสังคม เราจะกลายเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 แต่เมื่อว่างงานลงและใช้สิทธิ์เงินทดแทน เราจะกลายเป็นผู้ประกันตนตามมาตร 38 (ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบ) ในช่วงเวลาสูงสุด 6 เดือน (180 วัน) พร้อมได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง 4 กรณี ได้แก่ ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย เสียชีวิต ทุพพลภาพ และคลอดบุตร

ส่วนที่ 2 สิทธิประโยชน์ที่ได้รับเมื่อสมัครประกันสังคมต่อหลังจากออกจากงาน

หากเราลาออกจากงานแล้ว แต่ยังต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากประกันสังคมต่อไป เราก็สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 ภายใน 6 เดือนหลังสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และได้ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ทั้งนี้ต้องไม่เป็นผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคม โดยที่เราจะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี ได้แก่ ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย เสียชีวิต ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และชราภาพ

สำหรับการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแบบสมัครใจนี้ เราต้องจ่ายสมทบเข้าในอัตราร้อยละ 9 ของค่าจ้าง โดยกำหนดฐานค่าจ้างคงที่อยู่ที่ 4,800 บาทต่อเดือนเท่ากันทุกคน เท่ากับว่าเราต้องส่งเงินสมทบ 4,800×9%=432 บาท และรัฐจะจ่ายเงินสมทบให้อีก 2.5% โดยเงินที่จ่ายสมทบไปนี้ จะแบ่งจ่ายสมทบกรณีเจ็บป่วย/เสียชีวิต/ทุพพลภาพ/คลอดบุตร 3% และกรณีสงเคราะห์บุตร/ชราภาพ 6% ซึ่งเราจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพเมื่อเราอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีนโยบายลดอัตราการเก็บเงินสมทบประกันสังคมลงเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนจากผลกระทบน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา โดยเก็บเงินสมทบในอัตราร้อยละ 3 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 และจะขึ้นเป็นร้อยละ 4 ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนปี 2556 เก็บเงินสมทบร้อยละ 4 ดังนั้น กรณีของการสมัครประกันสังคมเองโดยสมัครใจ ก็จะไม่ได้จ่ายสมทบ 432 บาท แต่จะจ่าย 240 บาทในช่วงครึ่งปีแรก และ 336 บาทในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนปี 2556 เก็บเงินสมทบ 336 บาท

ทั้งหมดดังกล่าวข้างต้น เป็นรายละเอียดสิทธิประโยชน์ที่เราควรรู้เมื่อออกจากงาน ในเมื่อได้จ่ายเงินสมทบโดยบังคับแล้ว ก็ควรจะศึกษาสิทธิประโยชน์ต่างๆ และใช้อย่างเหมาะสมให้คุ้มค่า...

@ สรุปสาระสำคัญ พรบ.ประกันสังคม พ.ศ.2533
@ โหลดแบบฟอร์ม"ประกันสังคม"ต่างๆ
@ พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยให้สอบถามข้อมูลได้ที่ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่เราสะดวก หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) หรือที่เว็บนี้.. sso.go.th


คำถาม : ผู้ประกันตนอายุครบ 55 ปี ขอรับบำเหน็จชราภาพไปแล้ว ต่อมาอีก 1 เดือนบริษัทฯเดิมเรียกกลับเข้าทำงานใหม่ จะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้องตามกฎหมายประกันสังคม

1. เมื่อแจ้งสิ้นสุดการเป็นลูกจ้างตาม ม.33 ไปแล้ว จะต้องแจ้งชื่อเข้าระบบประกันสังคมใหม่อีกหรือไม่

2. จะต้องหักเงินสบทบส่งประกันสังคมอีกหรือไม่

3. ถ้าไม่ต้องแจ้ง ลูกจ้างจะใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้อย่างไร

คำตอบ : By jirawank : ผู้ประกันตนออกจากงาน ประกันสังคมคุ้มครองต่ออีก 6 เดือน ใน 4 กรณี ได้แก่ กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตายไม่เนื่องจากการทำงาน และกรณีคลอดบุตร

กรณีอายุไม่เกิน 60 ปี (นายจ้างจะต้องยื่นเอกสารการขึ้นทะเบียนลูกจ้างอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์) สามารถกลับเป็นผู้ประกันตน ม.33 ได้ มีการนำส่งเงินสมทบก็มียอดออมใหม่ เมื่อลาออกจากงานก็สามารถรับสิทธิชราภาพในส่วนที่ทำงานได้ (ถ้ากลับเข้าทำงานใหม่ภายใน 6 เดือนนับจากออกจากงาน สิทธิการรักษาสามารถใช้ รพ.ตามบัตรฯเดิม)

กรณีอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ ไม่ต้องแจ้งเข้าประกันสังคม (แต่นายจ้างจะต้องยื่นเอกสารการขึ้นทะเบียนลูกจ้างที่อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์) เพราะถึงแจ้ง สปส.ก็ไม่รับแจ้ง พ.ร.บ.ประกันสังคม ไม่คุ้มครอง เมื่อไม่เป็นผู้ประกันตนตาม ม.33 ก็ไม่ต้องหักเงินสมทบนำส่ง

ตัวอย่างเพิ่มเติม.. "ในกรณีญาติลาออกจากงาน(เกษียณ)เมื่ออายุ 60 ปี และได้มาติดต่อขอรับเงินออมกรณีชราภาพเป็นบำเหน็จชราภาพ ต่อมานายจ้างเก่าเห็นว่ามีความสามารถจึงให้กลับมาทำงานแต่เป็นสัญญาปีต่อปี ไม่มีประกันสังคมเพราะไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ตามเงื่อนไขอายุ ดังนั้นญาติจึงไปสมัครประกันตนเองตาม ม.39 ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ลาออก และตอนนี้ก็ใช้สิทธิ ม.39 มีบัตรรับรองสิทธิรักษาพยาบาลตามปกติ"

ขอเสริมอีกนิด..

ในกรณีที่ ผปต.อายุ 55 ปีบริบูรณ์ และมีการลาออกจากงาน แล้วมารับเงินบำเหน็จชราภาพจาก สปส.ไปแล้ว ต่อมาหลังจากรับเงินไปแล้วสมมุติว่าประมาณ 5 เดือน นายจ้างเก่าก็รับคุณกลับเข้าทำงาน ซึ่ง ณ ตอนนั้นอายุคุณก็ยังไม่ถึง 60 ปี ถ้านายจ้างรับเข้าทำงาน นายจ้างก็จะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างในแบบ สปส.1-03/1 ส่วนสิทธิการรักษาถ้าลาออกยังไม่เกิน 6 เดือนสิทธิการรักษาก็ยังสามารถใช้ได้เมื่อแจ้งเข้างาน สิทธิการรักษาก็ยังสามารถใช้ รพ.ตามบัตรฯเดิม

ส่วนกรณีที่ ผปต.อายุ 60 ปีบริบูรณ์ นายจ้างจะต้องยื่นเอกสารการขึ้นทะเบียนลูกจ้างที่อายุต่ำกว่า 15 ปีและอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ (แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน สปส.6-07)

คลิกขวาที่ภาพ เลือก Save picture as...เพื่อ"ดู"&"copy"รูปขนาดใหญ่

กรณีชราภาพของ สปส.เริ่มเก็บเงินสมทบเมื่อ 31 ธ.ค.2541 การขอรับสิทธิคือ ผปต.จะต้องอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องสิ้นสภาพความเป็น ผปต. เมื่อยื่นขอรับสิทธิที่ สปส.จะตรวจสอบจากงวดที่ ผปต.นำส่ง ถ้าไม่ถึง 180 เดือน ผปต.จะได้รับเงินออมเป็นบำเหน็จ พร้อมดอกเบี้ย แต่ถ้าตรวจสอบแล้วส่งเงินครบ 180 เดือนจะพิจารณาเป็นบำนาญชราภาพรายเดือน

[กรณีชราภาพ.. การขอรับสิทธิ คือ ผปต.จะต้องอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ (เช่น เกิด 25มี.ค.2501 อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ คือ 25มี.ค.2556) และต้องสิ้นสภาพความเป็น ผปต.(ลาออกจากงาน)

ให้ติดต่อ สปส.เขตพื้นที่ใกล้บ้าน ตรวจสอบว่า ณ วันที่อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ได้ส่งเงินสมทบครบหรือไม่ครบ 180 เดือนหรือไม่

ถ้าส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน รับบำนาญชราภาพ

ถ้าส่งเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน รับบำเหน็จชราภาพ]


กรณีบำนาญชราภาพได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง และกรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพจากอัตราร้อยละ 20 ขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน

สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพ...

ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย x 20%(+จำนวน%ที่เพิ่มให้อีกปีละ 1.5%)

ตามตัวอย่าง.. ผปต.ท่านนี้จ่ายเงินสมทบฯไม่ถึง 180 เดือน ได้รับบำเหน็จชราภาพและผลประโยชน์ทดแทน นับถึง พ.ศ.2555 คือ เงินสมทบที่นำส่ง 113,002.02 บาท + ผลประโยชน์ทดแทน 27,240.68 บาท = 140,242.70 บาท

และ ประมาณกลางปี 2557 เมื่อประกาศดอกเบี้ยชราภาพออกมาแล้ว สปส.จะต้องจ่ายคืน ผปต.อีก ดังนี้.. ผลประโยชน์ทดแทน พ.ศ.2556 (109,402.02 บาท + 3,600.00 บาท) x ........... = ............................ บาท

การรับเงินบำนาญชราภาพ... สมมุติว่า ผปต.ท่านนี้จ่ายเงินสมทบฯครบ 180 เดือน จะต้องคำนวณหาค่าเฉลี่ยค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง คือ 889,500.00 บาท หารด้วย 60 = 14,825.00 บาท

ผปต.ท่านนี้จะได้รับบำนาญเดือนละ 14,825.00 x 20% = 2,965.00 บาท ตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 เป็นต้นไป

และ สมมุติ ผปต.ท่านนี้จ่ายเงินสมทบฯเกิน 180 เดือนไปอีก 12 เดือน

ผปต.ท่านนี้จะได้รับบำนาญเดือนละ 14,825.00 x 21.5% = 3,187.38 บาท

.

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

73... สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????

@ ไม่รีบเค้นออกมาจะเสียใจ...พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษของเด็กๆ
@ มองโครงการรับจำนำข้าวในสายตาของชาวนาตัวจริง...
@ สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค
@ Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55
@ แผนชั่วๆ สร้างความรำคาญให้ต่างชาติ เลิกซื้อข้าวไทย!
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ ที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลฯ ยันจำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่สามารถวางเพลิงได้
@ หึหึ ปวดตับละทีนี้ จะรุกเขมิบม้า เจอสวนรุกฆาต โบราณว่า..เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!!
@ โถ..โถ..โถ..น่าสมเพชเวทนา เอา"ข้าวนึ่ง"จากไหนไม่รู้ จัดฉากใส่ร้ายเขาเป็นตุเป็นตะ หวัง"ตีกิน"ตามสันดาน!!
@ มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...
@ พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????
@ "ลื้อมีร่มมั้ย??..." แค่คำนี้แหละ ที่ทำให้นิสัยผมเปลี่ยนทันที
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...
@ ทำความเข้าใจก่อนวิจารณ์ "การลงทุน 2 ล้านล้าน" กับ รัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์
@ หนีก็ตาย สู้ก็ตาย สู้เถอะ ยังมีศักดิ์ศรี ยังมีโอกาสรอด!!!
@ เขียนให้อ่าน..จากใจ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร
@ ทิ้งหนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร
@ คุณเชื่อใคร.. ระหว่าง กนก ส.ส.ปชป. กับ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์
@ อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ
@ ผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ตราตาชั่งเอียงสีฟ้า
@ เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...
@ คำแปล ปาฐกถาพิเศษ ปชต."นายกฯยิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย
@ จดหมายเปิดผนึก.. ส.ส.และ ส.ว.312 คน คัดค้านและไม่ยอมรับการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)

...เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ชาวกรุงเทพฯ อยากเห็นผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ ดูแล้วมีความหวัง สามารถเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ และชีวิตความเป็นอยู่ให้พวกเขา... พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งจะเร่งดำเนินการเรื่องขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถเมล์ไม่ปรับอากาศฟรี ส่วนรถปรับอากาศจะคิดราคา 10 บาทตลอดสาย เรือข้ามฟากเรือคลองแสนแสบให้บริการฟรีหมด ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่วนป้ายรถเมล์หลายพันจุดก็จะจัดระเบียบใหม่ ไม่ให้วิ่งทับซ้อนกัน จะเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดย กทม.จ่ายส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น

@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)



สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
เขียนโดย: Sarut Sirikasamsap เว็บ goldadvise.blogspot.com

การเลือกซื้อทองคำ:

ผมจะอธิบายสั้นๆให้ฟังนะครับ ว่า ร้านทองต่างๆ เค้า ขายทองคำอะไรกันบ้าง และ ราคาทองคำ ที่แม่ค้าขาย ราคา บวก ลบ กันอย่างไร

ง่ายๆครับ ดูราคาทองคำประจำวันนี้ เช่น วันนี้ราคาทองคำอยู่ที่

21/02/2556


อิงจาก: http://www.goldtraders.or.th/

ทองคำแบ่งเป็น:

1 บาท หนัก 15.2 กรัม

3 สลึง หรือ 75 สตางค์ หนัก 11.4 กรัม

2 สลึง หรือ 50 สตางค์ หนัก 7.6 กรัม

1 สลึง หนัก 3.8 กรัม

1/2 สลึง หนัก 1.9 กรัม


ทองคำแท่ง: จะแบ่งออกเป็นหลายอย่างครับ เช่น

10 บาท, 5 บาท, 3 บาท, 2 บาท, 1 บาท, 50 สตางค์ หรือ 2 สลึง, 1 สลึง เป็นต้น


ราคารับซื้อทองคำแท่ง คือ ราคาที่ร้านทองจะซื้อจาก ลูกค้า

คำนวณ: ลูกค้า ขาย ทองคำแท่ง 10 บาท ในวันที่ 21/02/2556
ลูกค้าจะขายใน ราคา 22,100 x 10 = 221,000 บาท

ราคาขายออกทองคำแท่ง คือ ราคาที่ร้านทองจะขายให้ ลูกค้า

คำนวณ: ลูกค้า ซื้อ ทองคำแท่ง 10 บาท ในวันที่ 21/02/2556
ลูกค้าจะซื้อใน ราคา 22,200 x 10 = 222,000 บาท

สรุป: ทองคำแท่ง มักซื้อไว้ลงทุนระยะยาว และ ราคาคงที่เมื่อขายคืนให้ร้านทองทั่วไป ร้านทองทุกร้าน ต้องอิง สมาคมทองคำแห่งประเทศไทย เท่านั้น


ทองคำรูปพรรณ: จะแบ่งออกเป็นหลายอย่างครับ เช่น

5 บาท, 3 บาท, 2 บาท, 1 บาท, 75 สตางค์ หรือ 3 สลึง, 50 สตางค์ หรือ 2 สลึง, 1 สลึง เป็นต้น


ราคาขายออกทองคำรูปพรรณ คือ ราคาที่ร้านทองจะขายให้ ลูกค้า

คำนวณ: ลูกค้า ซื้อ ทองคำรูปพรรณ 1 บาท ในวันที่ 21/02/2556
ลูกค้าจะซื้อใน ราคา 22,600 บาท บวก ลบ ประมาณ 100 ถึง 200 บาท

แล้วแต่ลายครับ ร้านทองมักจะพูดว่า ลายนี้แพง ค่ากำเหน็ด (ค่าแรง) แพง

แล้ว 1 หรือ 2 สลึง หละ ง่ายๆครับ ราคาทองคำแท่ง 22,200 บาท / 4 = 5,550 บาท คือ 1 สลึง

ส่วน 2 สลึง 22,200 บาท / 2 = 11,100 บาท

ร้านทองจะขายในราคาจาก ทองคำแท่ง + 300 ถึง 800 แล้วแต่ลาย ครับ คือ

ทองคำ 1 สลึง 5,550 + 300 ถึง 800 = 5,850 ถึง 6,350 บาท

ทองคำ 2 สลึง 11,100 + 300 ถึง 800 = 11,400 ถึง 11,900 บาท

***แล้วแต่ความสามารถแต่ละคนครับ ว่าจะซื้อได้ แพง หรือ ถูกขนาดไหน


ราคารับซื้อทองคำรูปพรรณ คือ ราคาที่ร้านทองจะซื้อจาก ลูกค้า

ลูกค้า ขาย ทองคำรูปพรรณ 1 บาท ในวันที่ 21/02/2556

ร้านทองจะซื้อใน ราคา 21,784.92 บาท ถ้าน้ำหนักเต็ม ร้านทองมักจะซื้อในราคา 21,300-21,800 บาท ร้านทอง เค้าจะอิงจากราคาทองคำแท่งครับ 22,100 บาท ราคาที่ร้านทองจะซื้อต้องขึ้นกับ น้ำหนัก เท่านั้น

ทองคำ 1 บาท น้ำหนักจะอยู่ที่ 15.2 กรัม ครับ ถ้าน้ำหนักขาดเยอะ เช่น เหลือ 15.0 ราคาที่เราจะขายได้ ยิ่งได้น้อยตามไปด้วยครับ ทองจะดำ หรือ เน่าขนาดไหน ร้านทองไม่สนครับ ขอน้ำหนักอย่างเดียวครับ แต่น้ำหนักจะหายไปตามเวลาอยู่แล้วครับ + ตอนเราไปขายน้ำหนักจะได้ประมาณ 15.2 เพราะ น้ำหนักของทองคำจะบวกเหงื่อ สิ่งสกปรก

และ ท่านใดที่ซื้อทองคำมานานมากๆ ก่อน ยุคทักษิณ เป็นรัฐบาล ประมาณ 10-15 ปีที่แล้ว จะมี ทองเขียว หรือ ทองผสมไม่ถึง 96.5 จะขายได้ในราคาต่ำมาก 22,100 บาท ลบไปอีก ประมาณ 1,000+ ครับ

สรุป: ทองคำรูปพรรณ ราคาซื้อ และ ขาย อิงกับลาย และ ค่ากำเหน็ดเป็นหลัก ง่ายๆ ส่วน ทองคำ 2 บาท ค่ากำเหน็ด จะแพงขึ้นครับ และ ทองคำที่น้อยว่า 1 บาท เช่น ทองคำ 2 สลึง 1 สลึง ราคา ค่ากำเหน็ด จะพอๆกันครับ บวกจาก ราคาทองคำแท่ง ราคาขาย ประมาณ 300 ถึง 800 บาท ครับ ขึ้นอยู่กับร้านที่ซื้อ


เพิ่มเติม: ทองคำรูปพรรณ

ร้านทองจะรู้ได้อย่างไรว่า เป็น ทองเขียว หรือ ทองผสม ง่ายๆ ครับ ทองคำทุกเส้นจะมี ตราประทับ อยู่ ร้านทองสามารถ เช็ค ได้ว่า ทองคำเส้นนั้นทำจากบริษัทไหน บริษัทที่ไม่ผ่านคุณภาพ ร้านทองจะรู้ทันที ที่จำๆได้ น่าจะมีประมาณ 70-150 ร้าน ที่ผลิต ทองคำรูปพรรณในไทยครับ

*** ทองเขียว คือ ทองคุณภาพและเปอร์เซ็นต์ต่ำ เนื่องจากมีส่วนผสมของเงินอยู่มาก เลยทำให้ทองดูเขียวๆ ***

*** ส่วนทองที่สีออกแดงๆ ก็อาจสันนิษฐานได้ว่า มีสัดส่วนการผสมของทองแดงมากไป ได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ การชุบสีทองก็มีส่วนที่ทำให้ทองออกเด่นแดงได้ ***

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

72... ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ

@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk
@ ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่.........
@ ไม่รีบเค้นออกมาจะเสียใจ...พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษของเด็กๆ
@ พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน
@ ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ มองโครงการรับจำนำข้าวในสายตาของชาวนาตัวจริง...
@ ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้
@ สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค
@ นายกฯปูตั้งใจบริหารงานประเทศให้เต็มกำลัง... เรื่องเห็บเหาไม่ต้องพะวง ..ประชาชนจัดการให้..
@ Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55
@ แผนชั่วๆ สร้างความรำคาญให้ต่างชาติ เลิกซื้อข้าวไทย!
@ 'ประชามติ'เกมวัดใจผู้มีสิทธิ 46 ล้าน ต้องการ รธน.เผด็จการหรือประชาธิปไตย ???
@ อย่า"ฟูมฟาย"ให้เพื่อนๆ"เสียขวัญ" ... อย่า"กดดัน"จนคนทำงานต้อง"เสียกำลังใจ"
@ อ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้ว เห็นได้ชัดเลยครับว่า... นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่ โง่มาก โง่มากจริงๆ ครับ
@ เฉียบ!! นายกฯปูอยากให้ปี 2556 เป็นปีของการคิดบวก ...+
@ ภาพชุดพิเศษ...นายกฯปู รณรงค์"ประชามติ"
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ ที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลฯ ยันจำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่สามารถวางเพลิงได้
@ หึหึ ปวดตับละทีนี้ จะรุกเขมิบม้า เจอสวนรุกฆาต โบราณว่า..เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!!
@ โถ..โถ..โถ..น่าสมเพชเวทนา เอา"ข้าวนึ่ง"จากไหนไม่รู้ จัดฉากใส่ร้ายเขาเป็นตุเป็นตะ หวัง"ตีกิน"ตามสันดาน!!
@ มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...


เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)

...เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ชาวกรุงเทพฯ อยากเห็นผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ ดูแล้วมีความหวัง สามารถเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ และชีวิตความเป็นอยู่ให้พวกเขา... พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งจะเร่งดำเนินการเรื่องขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถเมล์ไม่ปรับอากาศฟรี ส่วนรถปรับอากาศจะคิดราคา 10 บาทตลอดสาย เรือข้ามฟากเรือคลองแสนแสบให้บริการฟรีหมด ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่วนป้ายรถเมล์หลายพันจุดก็จะจัดระเบียบใหม่ ไม่ให้วิ่งทับซ้อนกัน จะเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดย กทม.จ่ายส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น

@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)



ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
By: วาทตะวัน สุพรรณเภษัช

อยากจะเรียน ให้ท่านผู้อ่านทราบว่า นอกจากไอ้พวกโหนต่องแต่งกาลีทั้งหลาย รวมทั้งฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านดักดาน และพวกพันธมาร (ซึ่งกำลังตีแถวเดินย่ำต๊อก ขึ้นศาลอาญา) ที่แสดงทีท่าเป็นศัตรูถาวรต่อทักษิณ มักให้ "มุมมอง" ข้างร้ายกับรัฐบาลเสมอมา แต่ก็น่าแปลก ตรงที่...ทำไมรัฐบาลนายกฯปู จึงไม่ใช้สื่อและการประชาสัมพันธ์ ให้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร จะเรียกว่า งานด้านการสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้กับประชาชนของรัฐบาล นั้น อ่อนแอมากจริงๆ!

ผมขอแนะนำ สั้นๆ ว่า กลยุทธง่ายๆ ที่ควรนำไปใช้ คือ เอา "เรื่องจริง" ไปบอกกับพี่น้องประชาชนซิ เพราะการพูดเรื่องจริงเท่านั้น ที่จะทำให้รัฐบาล...ปลอดภัย!

ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ได้ เช่น บอกไปตรงๆเลยครับว่า ที่ไอ้พวกฝ่ายตรงข้าม มันออกมาโพนทะนาว่า ปีใหม่นี้เศรษฐกิจจะย่ำแย่ แต่พวกมันเองรู้หรือเปล่าว่า อาจารย์สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันปัญญาภิวัฒน์ เพิ่งรายงานข่าวดีว่า เฉพาะญี่ปุ่นประเทศเดียว ที่เคยขอบีโอไอเมื่อ ปี พ.ศ.2554 ด้วยจำนวนเงินลงทุน 1.6 หมื่นล้านบาท แต่พอถึงปี พ.ศ.2555 ที่คุณปูเป็นนายกฯเต็มปี นักลงทุนชาวญี่ปุ่น กลับขอบีโอไอเพื่อที่จะมาลงทุนในประเทศไทย ถึง 300,000,000,000 บาท!

ท่านอ่านไม่ผิดหรอกครับ เพราะมันคือ สามแสนล้านบาท จริงๆ ปีเดียว นิฮอนจิง (คนญี่ปุ่น) ขอลงทุนเพิ่มในประเทศไทย สูงขึ้นร่วม 20 เท่าตัว เห็นกันหรือยังล่ะ!

เอาอีกเรื่องก็ได้ ตลาดหุ้นที่เมื่อต้นปี ไอ้นักวิแคะหุ้น ที่แม้แต่ตัวมันเองยังขาดทุน เพราะหนังสือหุ้นที่เจ้าตัวเคยลงทุนทำ ยังเจ๊งสนิท ได้ออกมาทำนายว่า หุ้นไทยปี 2555 ต้องหลุด 1 พันจุด เพราะเศรษฐกิจทรุดโทรม แต่พอถึงสิ้นปี ความจริงก็ปรากฏออกมาว่า ตลาดหุ้นไทยสมัยยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ นั้น ดรรชนีหุ้นสามารถทะลุมาแตะ 1,400 จุด เพิ่มขึ้นจากยุคนายมาร์ค หัวปลอก ถึง 366.61 จุด หรือเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ที่น่าตื่นตาตื่นใจ คือ จำนวนเงินลงทุนในตลาดหุ้น อันเป็นตัวบ่งชี้ความมั่นคงของตลาดหุ้น หรือที่เรียกว่า Market Cap เพิ่มขึ้นจนมียอดสูงถึง 11,800,000,000,000 บาท ตัวเลขมากมายอย่างนั้น เห็นแล้วเวียนหัว แต่เขียนเป็นตัวหนังสือคือ... สิบเอ็ดล้าน กับอีกแปดแสน...ล้านบาท!

เรื่องดีๆอย่างนี้ ไอ้พรรคอัปรีย์กาลีบ้านเมือง มันทำไม่เป็นหรอกครับ และ...ไม่มีขีดความสามารถ ที่จะ "ทำได้" ด้วย! พวกมันจะต้องเป็น "ฝ่ายค้าน-ดักดาน" ไปอีกนานแสนนาน!! ไม่ต้องมาเชื่อผม แต่ดูเอาเองเถอะครับ!!!


PlayList สัมมนาเพื่อไทย เขาใหญ่ 6jan56 จะแก้ รธน.50 อย่างไร ???


นายกฯปู แต่งคาวเกิร์ล ร่วมปาร์ตี้ปีใหม่ พรรคเพื่อไทย

วันที่ 6 ม.ค.2556 ภายหลังเสร็จสิ้นการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ในเวลา 18.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานจัดงานเลี้ยงสวัสดีปีใหม่ 2556 ด้วยสโลแกน "ร่วมแรง ร่วมใจ เพื่อประชาธิปไตย เพื่ออนาคตที่ดีของคนไทย" ท่ามกลางบรรยากาศการจัดงานกลางแจ้ง โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรค คณะรัฐมนตรี ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพายัพ ชินวัตร นายสมชายและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายเสนาะ เทียนทอง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก เป็นงานเลี้ยงกลางแจ้งในรูปแบบคาวบอยไนท์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแกนนำและ ส.ส.พรรคต่างสวมใส่ชุดคาวบอยร่วมงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรีสวมชุดคาวเกิร์ลใส่เสื้อลายสกอตผูกผ้าพันคอร่วมเล่นเกมตามซุ้มต่างๆ อย่างสนุกสนาน อาทิ ปาเป้า ปากระป๋อง สาวน้อยตกน้ำ โดยมีการขายคูปองร่วมการกุศล 5 ใบ 100 บาท ท่ามกลางบรรยากาศซุ้มอาหารนานาชนิด อาทิ ไก่ย่าง ส้มตำ ลาบเป็ด ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมู ผัดหมี่โคราชกับเนื้อแกะย่าง ข้าวโพดต้ม น้ำนมข้าวโพดจากไร่สุวรรณ ของขึ้นชื่อ อ.ปากช่อง ในงานยังเพิ่มความสนุกสนานโดยให้ ส.ส.พรรคนำของขวัญมาร่วมจับสลาก โดยกำหนดมูลค่าของขวัญราคาไม่เกิน 3,000 บาท และยังมีรางวัลพิเศษจากนายกรัฐมนตรีที่มอบให้ ส.ส.เขต พรรคเพื่อไทย คือการจับรางวัล "นายกฯเยี่ยมบ้าน" หากนายกฯจับสลากได้พื้นที่ใดนายกฯจะลงไปเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่นั้นพร้อมรับประทานอาหารที่บ้าน ส.ส.พื้นที่ดังกล่าวด้วย




















ไทรอาร์ม ตัวอย่าง SME ให้มากกว่า 300 บาท